กรมปศุสัตว์ได้บูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานด้านปศุสัตว์ ในการพัฒนาบริการด้านสุขภาพสัตว์ ได้จัดโครงการสัตวแพทย์พระราชทานในพระราชดำริ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ขึ้นในพื้นที่ จังหวัดสตูล โดยออกหน่วยให้บริการแก่เกษตรกรในเขตพื้นที่อำเภอละงู อำเภอทุ่งหว้า และอำเภอมะนัง เพื่อดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยงของเกษตรกรในพื้นที่ห่างไกล เป็นการพัฒนาอาชีพ และเพิ่มรายได้ของเกษตรกรให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
วันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 09.00 น. นายสัตวแพทย์บุญญกฤช ปิ่นประสงค์ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ เป็นประธานเปิดโครงการสัตวแพทย์พระราชทานฯ นายศักระ กปิลกาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล มอบหมายให้นายธีระพงษ์ คุ่มเคี่ยม นายอำเภอละงู กล่าวต้อนรับ และนายคฑาวุธ ทะหล้า ปศุสัตว์จังหวัดสตูล กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดงานฯ ณ อาคารหอประชุม มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา วิทยาเขตสตูล ตำบลละงู อำเภอละงู จังหวัดสตูล โดยมีคณะกรรมการโครงการสัตวแพทย์พระราชทานฯ หัวหน้าส่วนราชการ คณาจารย์ นิสิต นักศึกษา ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น พี่น้องเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ เข้าร่วมพิธีเปิดฯ ทั้งนี้ เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงมีพระราชดำริให้มีโครงการสัตวแพทย์พระราชทานเพื่อให้หน่วยงานวิชาชีพสัตวแพทย์ และวิชาชีพอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เข้าไปดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยงของเกษตรกรในพื้นที่ห่างไกล เป็นการพัฒนาอาชีพและเพิ่มรายได้ของเกษตรกรให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
นายสัตวแพทย์บุญญกฤช ปิ่นประสงค์ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า การดำเนินงานโครงการสัตวแพทย์พระราชทานฯ เป็นงานที่สนองพระราชดำริของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงในการบริการประชาชนชาวไทย ให้มีความอยู่ดีกินดีโดยถ้วนหน้าและเสมอภาคกัน เป็นการแบ่งเบาพระราชกรณียกิจอีกทางหนึ่ง สร้างคุณประโยชน์ให้แก่เกษตรกรผู้ยากไร้อยู่ห่างไกลและขาดโอกาส โครงการสัตวแพทย์พระราชทานฯ เป็นความร่วมมือแบบบูรณาการของสัตวแพทย์ไทย และบุคลากรทุกภาคส่วนทั้งในส่วนของวิชาชีพสัตวแพทย์ และวิชาชีพอื่นๆ ต่างผนึกกำลังในการใช้เทคโนโลยี และวิชาการอันทันสมัยแขนงต่างๆ เพื่อบริการประชาชน ให้ได้ผลสำเร็จตามพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง นับเป็นความโชคดีของเกษตรกรจังหวัดสตูล โดยเฉพาะอำเภอละงู อำเภอทุ่งหว้า และอำเภอมะนัง ที่จะได้รับบริการจากบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ มีน้ำใจดีงาม ที่จะมาช่วยบรรเทาความเจ็บป่วยของสัตว์เลี้ยง และบรรเทาความทุกข์ร้อนของเกษตรกรของทุกท่าน
เนื่องด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง ทรงห่วงใยพสกนิกรของพระองค์เป็นอย่างยิ่ง ทุกครั้งที่เสด็จเยี่ยมความเป็นอยู่ของราษฎร จะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมติดตามถวายงานตามรับสั่งเพื่อพระราชทานความช่วยเหลือแก่เกษตรกร ทรงแนะนำการแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกษตรกรไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง รวมทั้งทรงพระราชทานแนวคิดใหม่ๆ ที่เหมาะสมกับสภาพความเป็นอยู่ในปัจจุบัน ทั้งหมดเป็นพระราชกรณียกิจที่แสดงถึงน้ำพระราชหฤทัยอันเปี่ยมล้นไปด้วยความเมตตา ทรงห่วงใยและปรารถนาดีต่อพสกนิกรของพระองค์ทั้งสิ้น โครงการสัตวแพทย์พระราชทานฯ เป็นงานที่สนองพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการบริการประชาชนชาวไทยให้มีความอยู่ดีกินดี โดยถ้วนหน้าและเสมอภาคกัน เป็นการแบ่งเบาพระราชกรณียกิจอีกทางหนึ่ง สร้างคุณประโยชน์ให้แก่เกษตรกรผู้ยากไร้อยู่ห่างไกลและขาดโอกาส กรมปศุสัตว์ในฐานะหน่วยงานหลักในการดำเนินงานโครงการสัตวแพทย์พระราชทาน ร่วมกับคณะสัตวแพทยศาสตร์ของมหาวิทยาลัยต่างๆ สมาคมด้านสัตวแพทย์ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ร่วมกันดำเนินงานโครงการสัตวแพทย์พระราชทานขึ้นมาตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ.2550 จนถึงปัจจุบัน
รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวต่อไปว่า ในปีงบประมาณ พ.ศ.2568 กรมปศุสัตว์ได้บูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานด้านปศุสัตว์ในการพัฒนาบริการด้านสุขภาพสัตว์ ได้จัดให้มีการดำเนินการโครงการสัตวแพทย์พระราชทานในพระราชดำริฯ ในพื้นที่จังหวัดสตูล โดยออกหน่วยให้บริการในเขตพื้นที่อำเภอละงู อำเภอทุ่งหว้า และอำเภอมะนัง มีเป้าหมายการให้บริการเกษตรกรจำนวนไม่น้อยกว่า 250 ราย สัตว์ได้รับการดูแลสุขภาพ จำนวน 3,500 ตัว เกษตรกรได้รับการส่งเสริมพัฒนาความรู้ด้านปศุสัตว์ จำนวน 50 ราย และนักเรียนได้รับความรู้โรคพิษสุนัขบ้าและการป้องกันโรคสัตว์สู่คน จำนวน 100 คน โดยมีคณาจารย์ นิสิต นักศึกษา สัตวแพทย์ และนักวิชาการจากส่วนกลางและส่วนภูมิภาคร่วมปฏิบัติงาน กำหนดดำเนินการระหว่างวันที่ 23 – 25 กรกฎาคม 2568 รวมระยะเวลา 3 วัน สำหรับกิจกรรมการออกหน่วยในครั้งนี้ ประกอบด้วย การตรวจรักษาพยาบาลสัตว์ทั้งด้านอายุรกรรม สูติกรรม และศัลยกรรม การฉีดวัคซีนป้องกันโรคสัตว์ การกำจัดปรสิตภายนอกและภายในการเก็บตัวอย่างเพื่อตรวจวินิจฉัยโรคสัตว์ทางห้องปฏิบัติการ การฝึกอบรมให้ความรู้แนะนำการเลี้ยง การดูแลสัตว์ให้ถูกสุขลักษณะ และการจัดนิทรรศการให้ความรู้ ด้านปศุสัตว์และการเกษตรอื่นๆ เป็นต้น