สถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 24 ก.ค. 68 เวลา 7.00 น.

1. ปริมาณฝนสะสม 24 ชม. สูงสุด ได้แก่ ภาคเหนือ : จ.เชียงใหม่ (231 มม.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จ.เลย (58 มม.) ภาคกลาง : จ.สระบุรี (33 มม.) ภาคตะวันออก : จ.ปราจีนบุรี (54 มม.) ภาคตะวันตก : จ.กาญจนบุรี (51 มม.) ภาคใต้ : จ.ชุมพร (14 มม.)

สภาพอากาศวันนี้ : มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเมียนมา และแนวร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักมากบางแห่งกับมีลมแรง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ตาก และกาญจนบุรี

คาดการณ์ : ช่วงวันที่ 25 – 29 ก.ค. 68 ประเทศไทยจะมีฝนลดลงแต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณตะวันออกเฉียงเหนือภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันตก เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะเริ่มมีกำลังอ่อนลง ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบน อนึ่ง หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่อ่อนกำลังลงจากพายุดีเปรสชัน “วิภา” มีแนวโน้มจะเคลื่อนออกไปทางประเทศเมียนมาในช่วงวันที่ 25 – 26 ก.ค. 68

2. คุณภาพน้ำ ณ จุดเฝ้าระวัง แม่น้ำสายหลัก :
น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค แม่น้ำเจ้าพระยา ณ สถานีสูบน้ำสำแล จ.ปทุมธานี อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
น้ำเพื่อการเกษตร แม่น้ำท่าจีน แม่น้ำแม่กลอง และแม่น้ำบางปะกง อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน

3. สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในภาพรวม : ปริมาณน้ำรวม 59% ของความจุเก็บกัก (47,396 ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำใช้การ 40% (23,280 ล้าน ลบ.ม.)
สทนช. ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการ เพื่อรองรับปริมาณน้ำที่อาจเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูฝน โดยเน้นการลดความเสี่ยงจากอุทกภัยและเตรียมความพร้อมในทุกภาคส่วน พร้อมทั้งสร้างการรับรู้แก่ประชาชน ประชาสัมพันธ์การแจ้งเตือน และจัดเตรียมมาตรการช่วยเหลือผ่านช่องทางต่าง ๆ อย่างทั่วถึงและทันท่วงที

4. ประกาศสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ : สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ประกาศฉบับที่ 14/2568 เรื่อง แจ้งระดับน้ำในแม่น้ำโขงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น และล้นตลิ่ง ด้วยสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามสถานการณ์แม่น้ำโขง พบว่าอิทธิพลจากพายุโซนร้อน “วิภา” ปกคลุมบริเวณสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) คาดว่าพายุนี้จะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงต่อไป ซึ่งส่งผลให้ในช่วงวันที่ 23 – 24 กรกฎาคม 2568 บริเวณแขวงหลวงพระบาง สปป.ลาว รวมทั้งภาตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือของประเทศไทย มีปริมาณฝนตกหนักมาก ประกอบกับเขื่อนไซยะบุรีมีปริมาณน้ำไหลผ่านประมาณ 17,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้ระดับน้ำในพื้นที่แม่น้ำโขงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สทนช. ได้คาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์แม่น้ำโขง ในช่วงวันที่ 25 – 29 กรกฎาคม 2568 ดังนี้
1. จังหวัดเลย อำเภอเชียงคาน ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ประมาณ 2.00 – 4.00 เมตร ยังคงต่ำกว่าตลิ่ง 0.85 เมตร
2. จังหวัดหนองคาย อำเภอเมืองหนองคาย ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ประมาณ 3.00 – 4.00 เมตร และคาดว่าระดับน้ำจะมีแนวโน้มสูงกว่าตลิ่ง 0.30 – 0.50 เมตร
3. จังหวัดบึงกาฬ อำเภอเมืองบึงกาฬ ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ประมาณ 0.50 – 3.00 เมตร และคาดว่าระดับน้ำจะมีแนวโน้มสูงกว่าตลิ่ง 0.50 – 1.00 เมตร
4. จังหวัดนครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ประมาณ 1.00 – 3.00 เมตร ยังคงต่ำกว่าตลิ่ง 0.50 – 1.50 เมตร

ทั้งนี้ สทนช. ได้ประสานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดริมแม่น้ำโขง เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง และน้ำท่วมขังบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำโขง และประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำและแจ้งเตือนให้ประชาชนในบริเวณแม่น้ำโขง ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และเตรียมการเฝ้าระวังผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำในแม่น้ำโขง