สถานการณ์การท่องเที่ยวระหว่างวันที่ 14 – 20 กรกฎาคม 2568

นายสรวงศ์ เทียนทอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยถึงผลการประเมินเบื้องต้นจำนวนนักท่องเที่ยว พบว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 20 ก.ค. 68 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาสะสมแล้วกว่า 18 ล้านคน สำหรับในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจากการท่องเที่ยวในช่วง Summer holiday นั้น ส่งผลให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มตลาด ทั้งนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะใกล้ (Short haul) และนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะไกล (Long haul) โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นที่เดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 70.26 และขยับขึ้นมาเป็นกลุ่มที่เดินทางเข้ามาเป็นอันดับที่ 5 จากเดิมในอันดับที่ 15 ส่งผลให้ภาพรวมในสัปดาห์นี้มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 611,596 คน เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า 40,849 คน หรือร้อยละ 7.16 คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยเฉลี่ยวันละ 87,370 คน โดย 5 อันดับแรกของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้แก่ จีน (98,081 คน) มาเลเซีย (81,584 คน) อินเดีย (46,378 คน) เกาหลีใต้ (29,347 คน) และญี่ปุ่น (22,042 คน) โดยนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย และจีน มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าร้อยละ 70.26 ร้อยละ 22.47 ร้อยละ 8.80 และร้อยละ 6.48 ตามลำดับ ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย มีการปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าเล็กน้อย

สําหรับในสัปดาห์ถัดไป คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น โดยมีปัจจัยส่งเสริมการเดินทาง ได้แก่ การปิดภาคเรียนในภูมิภาคยุโรป และภูมิภาคเอเชียตะวันออก อาทิ จีน และญี่ปุ่น การประกาศปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวและกีฬา การมีมาตรการ Ease of traveling ของรัฐบาลที่ช่วยเพิ่มการอํานวยความสะดวกในการเดินทางสู่ไทย การยกเว้นบัตรตม.6 รวมถึงการกระตุ้นและส่งเสริมให้สายการบินเพิ่มจํานวนเที่ยวบินมากยิ่งขึ้น

สรุปภาพรวมการท่องเที่ยวในสัปดาห์นี้ โดยข้อมูล ณ วันที่ 21 ก.ค. 68 พบว่า ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 20 ก.ค. 68 ที่ผ่านมาทั้งสิ้น 18,365,651 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 850,633 ล้านบาท โดยจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ มาเลเซีย (2,537,929 คน) จีน (2,533,179 คน) อินเดีย (1,308,750 คน) รัสเซีย (1,087,174 คน) และเกาหลีใต้ (845,686 คน)