วันที่ 26 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 น. นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานเปิด “โครงการประกันสังคมทั่วไทยสู่แรงงานภาคอิสระ รุ่นที่ 5 (ส่วนภูมิภาค)” เพื่อขยายความครอบคลุมของผู้ประกันตนมาตรา 40 ในกลุ่มแรงงานอิสระ โดยมี นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดงาน นางนงค์ลักษณ์ กอวรกุล รองเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม นายขัตติยะ แพนเดช ผู้ตรวจราชการกรม กรมการจัดหางาน จ่าเอกประยงค์ บุญช่วย ผู้ตรวจราชการกรม กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน นายธุวานนท์ ดวงจักร์ ผู้ตรวจราชการกรม กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน หัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมเป็นเกียรติ นายชยันต์รัฐ รุ่งโรจวรารักษ์ นายอำเภอไชยา หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงแรงงาน และเครือข่ายผู้นำชุมชนจากหลายอำเภอในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง ณ เพื่อนเดินทางร้านอาหาร & รีสอร์ท อำเภอไชยา
นายบุญสงค์ กล่าวว่ากระทรวงแรงงานมุ่งมั่นสร้างระบบหลักประกันสังคมที่เท่าเทียมสำหรับคนทำงานทุกกลุ่ม โดยเฉพาะแรงงานนอกระบบที่ยังไม่มีหลักประกันทางรายได้เมื่อเจ็บป่วย ทุพพลภาพ หรือเข้าสู่วัยชรา โครงการนี้จึงเป็นกลไกสำคัญในการเข้าถึงประชาชนถึงระดับชุมชน และสร้างความเข้าใจในสิทธิประโยชน์ของประกันสังคมมาตรา 40 ที่มีค่าใช้จ่ายน้อย แต่ให้ความคุ้มครองครอบคลุม
จังหวัดสุราษฎร์ธานีมีแรงงานนอกระบบกว่า 390,000 คน แต่มีผู้ขึ้นทะเบียน ม.40 แล้วเพียง 73,932 คน แสดงให้เห็นว่ายังมีแรงงานอีกจำนวนมากที่ยังเข้าไม่ถึงการคุ้มครอง” ปลัดบุญสงค์กล่าว
พร้อมกันนี้ยังได้สั่งการให้สำนักงานประกันสังคมจังหวัดเร่งเดินหน้าเชิงรุก ลงพื้นที่จริง จับมือผู้นำท้องถิ่น ผู้นำชุมชน และเครือข่ายอาชีพต่าง ๆ เพื่อช่วยขยายการรับรู้และอำนวยความสะดวกในการสมัครเป็นผู้ประกันตนให้ครอบคลุมทุกอำเภอ
นอกจากจังหวัดสุราษฎร์ธานีแล้ว โครงการนี้ยังเชื่อมโยงไปยังพื้นที่ใกล้เคียง เช่น นครศรีธรรมราช พังงา ชุมพร และระนอง ผ่านการสร้างเครือข่ายผู้ประกันตนในระดับภูมิภาค ที่จะช่วยขับเคลื่อนการสร้างหลักประกันทางสังคมในกลุ่มแรงงานอิสระทั้งกลุ่มเกษตรกร ผู้ค้าขาย แม่ค้า พ่อค้า ผู้รับจ้างทั่วไป และแรงงานอาชีพเฉพาะทางต่าง ๆ
นายบุญสงค์ ยังย้ำด้วยว่า การมีประกันสังคม ม.40 คือเครื่องมือสำคัญที่ทำให้แรงงานอิสระมีความมั่นคงในชีวิต แม้จะไม่มีนายจ้าง แต่ก็ควรมีหลักประกัน พร้อมทั้งตั้งเป้าผลักดันให้แรงงานอิสระทั่วประเทศเข้าสู่ระบบให้มากที่สุดภายในปี 2568
โครงการเชิงรุกนี้ ที่สะท้อนถึงการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลโดยตรง ให้ทุกคนมีหลักประกันได้รับความคุ้มครอง และขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน