นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงฯ เตรียมหารือร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม โดยมีนางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ภาคเอกชนและกลุ่มศิลปินผู้ผลิตภาพยนตร์ของไทย เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ทั้งจากต่างประเทศและของไทย ผ่านกลไก “Cash Rebate” หรือการคืนเงินลงทุนบางส่วน เพื่อกระตุ้นการลงทุนในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ และเสริมพลัง Soft Power ของประเทศ
โดยในส่วนของภาพยนตร์ต่างประเทศที่มาถ่ายทำในประเทศไทย มาตรการ Cash Rebate ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติได้อย่างมีนัยสำคัญ และสร้างงานให้แก่คนไทยในหลากหลายภาคส่วน ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีฯ ยังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย ด้วยมาตรการที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งกรมการท่องเที่ยวได้หารือร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม โดยมีนางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม และสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย รวมถึงภาคเอกชน เพื่อเสนอแนวทาง Cash Rebate สำหรับหนังไทยที่มีคุณภาพ พร้อมเผยแพร่ในต่างประเทศ
ทั้งนี้ แนวทางเบื้องต้นกำหนดให้ภาพยนตร์ไทยที่มีการลงทุนตั้งแต่ 30 ล้านบาทขึ้นไป และสามารถจัดจำหน่ายในต่างประเทศอย่างน้อย 5–7 ประเทศ จะได้รับสิทธิประโยชน์หลักคืนเงินร้อยละ 15 และอาจได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมสูงสุดไม่เกินร้อยละ 5 หากมีการถ่ายทำในเมืองรอง ส่งเสริม Soft Power ใช้บริการ Post-Production ในประเทศ หรือมีการลงทุนสูงเกิน 150 ล้านบาท โดยวงเงินคืนสูงสุดไม่เกิน 150 ล้านบาทต่อเรื่อง
“ผมเห็นศักยภาพของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย ทั้งในแง่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ การจ้างงาน และการเป็นเครื่องมือเผยแพร่วัฒนธรรมไทยสู่สายตาชาวโลก ซึ่งจะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น รัฐบาลพร้อมหนุนเต็มที่ครับ” นายสรวงศ์กล่าว
ทั้งนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยกรมการท่องเที่ยว, กระทรวงวัฒนธรรม และภาคเอกชน หารือในประเด็นเหล่านี้มาแล้ว และได้ร่วมกันกำหนดแนวทางส่งเสริมภาพยนตร์ไทยในรูปแบบการคืนเงินลงทุนอย่างเป็นระบบ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมเสนอเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินนโยบายอย่างเป็นทางการ เพื่อให้ประเทศไทยสามารถใช้ Soft Power ผ่านอุตสาหกรรมภาพยนตร์ได้อย่างเต็มศักยภาพ และสร้างรายได้สู่ประเทศอย่างยั่งยืน