เดินเครื่อง! สมัชชาสุขภาพ กทม. ครั้งที่ 5 ดึง Stakeholders ชุมชนร่วมออกแบบ นำร่อง โซนกรุงเทพเหนือ-กรุงธนเหนือ

เดินเครื่อง! กระบวนการจัดสมัชชาการสุขภาพ กทม. ครั้งที่ 5 บนนวัตกรรมใหม่ล่าสุด เปิดวงประชุมเชิงปฏิบัติการมุ่งให้ความสำคัญผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายร่วมสังเคราะห์ข้อมูล เพิ่มความใกล้ชิดชุมชนร่วมออกแบบกระบวนการ นำร่อง 2 โซน “กรุงเทพเหนือ-กรุงธนเหนือ” พร้อมส่งมอบข้อสรุปจากการประชุมให้ผู้ว่าฯ กทม. เพื่อเสนอ คสช. วันที่ 30 มิ.ย. นี้

เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 2568 สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ร่วมกับภาคีสมัชชากรุงเทพมหานคร (กทม.) จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อสังเคราะห์ข้อมูลและออกแบบกระบวนการสมัชชาสุขภาพระดับโซน กลุ่มเขตกรุงเทพเหนือ และกลุ่มเขตกรุงธนเหนือ ชักชวนกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholders) ร่วมนำเสนอความท้าทาย และสังเคราะห์สถานการณ์ในพื้นที่ รวมทั้งจัดทำแผนการจัดสมัชชาสุขภาพระดับโซน ตลอดจนกำหนดวัน เวลา สถานที่ ในการจัดสมัชชาสุขภาพ กทม. ครั้งที่ 5 พ.ศ. 2568

สำหรับการจัดทำแผนการจัดสมัชชาสุขภาพระดับโซน เป็นหนึ่งในนวัตกรรมใหม่ที่จะเกิดขึ้นในการจัดสมัชชาสุขภาพ กทม. ครั้งที่ 5 พ.ศ. 2568 อันเป็นการพัฒนาจากการทบทวนจุดอ่อน จุดแข็ง และโอกาสจากการขับเคลื่อนมติที่ผ่านมาทั้งหมด ในปี 2567 เพื่อนำมาสรุปเป็นบทเรียนให้การติดตาม ขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพ กทม. ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ทั้งนี้ สมัชชาสุขภาพ กทม. เริ่มขึ้นครั้งแรกในปี 2563 ปัจจุบันมีการดำเนินการมาแล้ว 4 ครั้ง ได้มติสมัชชาสุขภาพ กทม. รวมทั้งสิ้น 6 มติ โดยในอดีตประเด็นและสถานการณ์ปัญหาภายในพื้นที่ กทม. มักถูกนำเสนอภาพรวมผ่านตัวแทนหน่วยงานภาครัฐ นักวิชาการ ตัวแทนองค์กรภาคประชาชน ซึ่งอาจมีข้อจำกัดในความครอบคลุม หรือการเข้าถึงสถานการณ์ปัญหาในเชิงลึก ที่เป็นมิติเฉพาะเชิงรายละเอียดของแต่ละพื้นที่หรือชุมชน

ฉะนั้นในการจัดการจัดทำมติสมัชชาสุขภาพ ครั้งที่ 5 พ.ศ. 2568 จึงได้มีการปรับเปลี่ยนกระบวนการให้มีความใกล้ชิดกับชุมชนมากขึ้น ผ่านการจัดทำกระบวนการสมัชชาสุขภาพระดับโซน พื้นที่ กทม. ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 6 โซน โดยโซนที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นพื้นที่นำร่อง คือกลุ่มเขตกรุงเทพเหนือ และกลุ่มเขตกรุงธนเหนือ ซึ่งทั้ง 2 โซน เคยมีการจัดทำธรรมนูญสุขภาพเป็นฐานทุนเดิม

ศ. นฤมล นิราทร ประธานคณะอนุกรรมการวิชาการสนับสนุนการจัดและขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ความสำคัญของการจัดประชุมในวันนี้ คือการเตรียมการจัดสมัชชาสุขภาพ กทม. เพื่อจัดทำเป็นนโยบายสาธารณะ ที่จะต้องอยู่บนฐานข้อมูลเชิงประจักษ์ โดยให้ความสำคัญที่กระบวนการการมีส่วนร่วมจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

ดังนั้น ข้อมูลที่จะใช้ในการจัดทำสมัชชาสุขภาพ กทม. ก็จะผนวกร่วมกันจากข้อมูลเดิมที่มีอยู่แล้วจากการประมวลข้อมูลผลการดำเนินงานตามนโยบายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (9 ด้าน 9 ดี) ในระบบการบริหารจัดการแผนพัฒนากรุงเทพมหานคร (BMA Policy Tracking) ซึ่งจัดทำโดย สํานักยุทธศาสตร์และประเมินผล กทม. และข้อมูลสถานการณ์ระดับเขตในการจัดทำธรรมนูญสุขภาพ ใน 2 กลุ่มโซน โดยศูนย์วิชาการสุขภาวะเขตเมือง

“เมื่อก่อน การจัดทำสมัชชาสุขภาพ กทม. จะมองเป็นภาพรวม แต่ด้วยปัญหาใน กทม. มีความซับซ้อนมากขึ้นทุกวัน ในทีมอนุกรรมการวิชาการฯ จึงคุยกันว่าเริ่มต้นใหม่กันดีหรือไม่ แทนที่จะมองแต่ภาพรวมของ กทม. ทั้งหมด เราลองซูมลงไปในระดับโซนเพื่อให้เห็นรายละเอียดของปัญหาให้ชัดขึ้นดีกว่าไหม ซึ่งใน กทม. มีทั้งหมด 6 โซน จึงเลือกโซนที่มีธรรมนูญสุขภาพ คือโซนกรุงเทพเหนือและโซนกรุงธนเหนือ การประชุมในวันนี้ได้ชักชวนคนหน้างานมาสะท้อนปัญหาและความท้าทายที่มีอยู่ในพื้นที่ โดยมีข้อมูลเดิมทั้ง 2 ชุดเป็นฐานในการแลกเปลี่ยน พร้อมทั้งออกแบบกระบวนการสมัชชาสุขภาพระดับโซน โดยจะกำหนดวัน เวลา และสถานที่ จัดสมัชชาสุขภาพระดับโซนด้วย” ศ. นฤมล กล่าว

นพ.วิรุฬ ลิ้มสวาท รองประธานอนุกรรมการวิชาการสนับสนุนการจัดและขับเคลื่อนมติสมัชชากรุงเทพมหานคร กล่าวว่า คุณค่าสิ่งที่สำคัญที่สุดของสมัชชาสุขภาพ คือกระบวนการที่ทำให้ Stakeholders ทุกคนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการออกแบบนโยบายสาธารณะ เพื่อแก้ไขปัญหาหรือความท้าทายที่นับวันจะเพิ่มความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น การแก้ไขปัญหาในพื้นที่ จึงไม่สามารถแก้ไขได้เพียงแค่ใช้กรอบแว่นของผู้บริหารนโยบายระดับชาติได้เท่านั้น ในวันนี้ จึงเป็นโอกาสอันดี ที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานภาครัฐ ภาควิชาการ และภาคประชาสังคม จะได้ร่วมกันคัดเลือกว่าประเด็นปัญหาใดคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในการแก้ไขปัญหา ความท้าทายต่างๆ

นายเตชิต ชาวบางพรหม ผู้อำนวยการสำนักนโยบายสาธารณะเขตเมือง สช. กล่าวว่า อีกหนึ่งความสำคัญในวันนี้ คือการนำข้อสรุปต่างๆ และข้อมูลจากเวทีในวันนี้ ไปเข้าสู่ระเบียบวาระที่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และประธานกรรมการสนับสนุนการจัดและขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพกรุงเทพมหานคร จะต้องใช้นำเสนอความคืบหน้าต่อที่ประชุมคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (คสช.) ในวันที่ 30 มิ.ย. 2568 นี้

น.ส.ภารณี สวัสดิรักษ์ นักวิชาการอิสระด้านผังเมือง และอนุกรรมการวิชาการสนับสนุนการจัดและขับเคลื่อนมติสมัชชากรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ทุกคนที่เข้าร่วมการประชุมในวันนี้ ถือได้ว่าเป็นผู้บุกเบิกให้เกิดการจัดทำกระบวนการสมัชชาสุขภาพระดับโซน ใน กทม. ซึ่งเป็นโอกาสอันดีในการเปิดมิติใหม่ๆ ของการร่วมแสดงความคิดเห็น นำเสนอทางออกจากหลากหลายที่มา ทั้งภาคส่วนวิชาการ หน่วยงานที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ และภาคส่วนประชาสังคม สิ่งเหล่านี้ ทำให้การออกแบบนโยบายสาธารณะ ยึดโยงกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างแท้จริง

ร.ต.ต.สมัคร พรมนิล ประธานสภาองค์กรชุมชนเขตสายไหม กล่าวว่า ขอชื่นชมผู้ที่จัดให้มีกระบวนการสมัชชาสุขภาพระดับโซน กทม. เกิดขึ้น และทางสภาองค์กรชุมชนเขตสายไหม ยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับทาง สช. และ กทม. ในการขับเคลื่อนสิ่งเหล่านี้ แม้ครั้งนี้ จะยังเป็นการนำร่องในพื้นที่ 2 โซนหลัก คือ โซนกรุงเทพเหนือ และโซนกรุงธนเหนือ แต่เชื่อว่าจะมีการขยายไปออกให้ครบทั้ง 6 โซน โดยเชื่อมั่นว่าตัวแทนสภาองค์กรชุมชนจากทั้ง 50 เขต ก็จะให้ความร่วมไม้ร่วมมือเช่นกัน