รพ.วัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก จัดโปรแกรมฟื้นฟูสุขภาพผู้สูงอายุแบบเข้มข้น คัดกรอง ดูแล ฟื้นฟูสุขภาพทั้งร่างกาย จิต วิญญาณ และสังคม ตอบโจทย์สังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบและบริบทพื้นที่ “ผู้สูงอายุบ้านไกล เดินทางลำบาก ลูกหลานไม่มี” ดูแลผู้สูงอายุที่มีความเสื่อมได้ครอบคลุมกว่าร้อยละ 95 ช่วยให้มีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ลดภาระพึ่งพิงในครอบครัว ตั้งเป้าพัฒนาเป็นโรงพยาบาลแม่ข่ายเฉพาะทางด้านการฟื้นฟูสมรรถภาพ และเป็นศูนย์เพื่อการรักษาและเรียนรู้ในการดูแลผู้สูงอายุของจังหวัด
พญ.พิมพ์พรรณ ปั่นโพธิ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า อำเภอวัดโบสถ์ มีประชากรเพียง 36,943 คน น้อยที่สุดในจังหวัด ทำให้ได้รับงบประมาณรายหัวในการดูแลสุขภาพประชนน้อยตามไปด้วย ในจำนวนนี้เป็นประชากรสูงอายุถึง ร้อยละ 21.61 ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลจำนวนมาก แม้จะมีการดูแลเชิงรุกด้วยการคัดกรองความเสื่อม 9 ด้าน ได้แก่ ความคิดความจำ, การเคลื่อนไหว, การขาดสารอาหาร, การมองเห็น, การได้ยิน, ภาวะซึมเศร้า, การกลั้นปัสสาวะ, การปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน และสุขภาพช่องปาก และดูแลให้มีสุขภาพพื้นฐานที่ดี มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แต่พบว่ายังไม่สามารถตอบโจทย์บริบทของพื้นที่ คือ “ผู้สูงอายุบ้านไกล เดินทางลำบาก ลูกหลานไม่มี” จึงได้พัฒนาโปรแกรมฟื้นฟูสุขภาพผู้สูงอายุแบบเข้มข้น (Intensive Cause) หรือ Rehab Program ที่เป็นการดูแลสุขภาพครอบคลุมทั้งร่างกาย จิต วิญญาณ และสังคม
พญ.พิมพ์พรรณ กล่าวต่อว่า ผู้สูงอายุที่เข้าร่วมโปรแกรมมาจากการคัดกรองความเสื่อม 9 ด้าน โดยเจ้าหน้าที่ รพ.สต. ได้รับความร่วมมือจาก อบต. หรือเทศบาล จัดรถรับส่งมาที่โรงพยาบาลตำบลละ 1 รอบ สัปดาห์ละ 2 รอบ ปัจจุบันรับได้รอบละ 12 คน โดยโปรแกรมมีระยะเวลา 3 วัน 2 คืน ประกอบด้วย การประเมินภาวะเสื่อมซ้ำ การคัดกรองโรคเพื่อหาสาเหตุการเจ็บป่วย การควบคุมโรคที่เป็นทั้งด้านร่างกายและจิตใจ รวมถึงด้านทันตกรรม การฟื้นฟูทางระบบประสาทและสมอง การฟื้นฟูระบบการเคลื่อนไหว การฟื้นฟูอาการปวด การดูแลโภชนาการเฉพาะราย การทบทวนการใช้ยาเฉพาะราย จัดหากายอุปกรณ์ ออกเอกสารรับรองความพิการ รวมถึงการส่งต่อเพื่อหาสาเหตุเพิ่มเติม ภายใต้การดูแลฟื้นฟูสุขภาพโดยทีมบุคลากรสหวิชาชีพทั้งแผนปัจจุบัน แผนไทย และแผนจีน รวม 23 คน โดยตั้งแต่เดือนมีนาคม 2567 ถึงปัจจุบัน มีผู้เข้ารับบริการสะสม 784 คน คิดเป็นร้อยละ 95.26 ของผู้สูงอายุที่มีภาวะเสื่อมทั้งหมด ซึ่งผู้สูงอายุที่เข้าโปรแกรมได้รับการแก้ไขปัญหาสุขภาพอย่างตรงจุด ทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ไม่เกิดภาวะพึ่งพิง ส่งผลให้ผู้สูงอายุและครอบครัวมีความพอใจมากถึงมากที่สุด
“การทำโปรแกรมฯ นี้ แม้บุคลากรจะต้องทำงานหนักในการดูแลอย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีความอิ่มใจที่ช่วยให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และปีที่ผ่านมายังสามารถสร้างรายรับสุทธิให้กับโรงพยาบาลได้ 1.19 ล้านบาท ในปี 2568 ได้ตั้งเป้าหมายรับผู้สูงอายุเข้าโปรแกรม 1,248 ราย คาดว่าจะมีรายรับสุทธิเพิ่มเป็น 2.4 ล้านบาท พร้อมกับพัฒนาเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านการฟื้นฟูสมรรถภาพ 3 ส่วน คือ 1) ความเสื่อมในผู้สูงอายุ 2) โรคหลอดเลือดสมอง, การบาดเจ็บของไขสันหลัง, การบาดเจ็บที่สมองจากอุบัติเหตุ, กระดูกสะโพกหัก และ3) ผู้ป่วยฟื้นฟู/ติดเตียง หลังเจ็บป่วยเฉียบพลัน ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเชี่ยวชาญให้กับบุคลากร และเป็นโรงพยาบาลแม่ข่ายในการรับส่งต่อผู้ป่วยจากโรงพยาบาลชุมชนอื่นๆ รวมถึงเป็นศูนย์เพื่อการรักษาและเรียนรู้ในการดูแลผู้สูงอายุของจังหวัดพิษณุโลกด้วย” พญ.พิมพ์พรรณกล่าว