มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดย คณะวิทยาศาสตร์ ร่วมกับ สมาคมจุลทรรศน์แห่งประเทศไทย เปิดการประชุมวิชาการนานาชาติครั้งที่ 42 หรือ MST42 (The 42nd International Conference of the Microscopy Society of Thailand) ภายใต้แนวคิด “Seeing the Invisible: How Microscopy Transforms Science and Industry” ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงบทบาทสำคัญของวิทยาการด้านจุลทรรศน์ในการพลิกโฉมโลกของวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และอุตสาหกรรมในยุคที่การมองเห็นในระดับนาโนมีความหมายต่อคุณภาพชีวิตของมนุษยชาติอย่างแท้จริง โดยมี ผศ. ดร.นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดี เป็นประธานกล่าวเปิดงาน รศ. ดร.พิมลศรี มิตรภาพอาธร รองคณบดีฝ่ายวิชาการและวิเทศสัมพันธ์ คณะวิทยาศาสตร์ ผศ. ดร.ณัฐพล ชมแสง นายกสมาคมจุลทรรศน์แห่งประเทศไทย พร้อมด้วย นักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ และภาคอุตสาหกรรมจากทั้งในและต่างประเทศ เข้าร่วมอย่างคึกคัก ณ โรงแรมลากูน่า แกรนด์ แอนด์ สปา จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2568
ผศ. ดร.นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดี กล่าวเน้นย้ำถึงความสำคัญของวิทยาการจุลทรรศน์ในบริบทของมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะในการสนับสนุนงานวิจัยเชิงพื้นที่ อาทิ ความหลากหลายทางชีวภาพเขตร้อน วิทยาศาสตร์ทางทะเล และการเกษตรแบบยั่งยืน ซึ่งเป็นจุดแข็งของมหาวิทยาลัย “การใช้จุลทรรศน์ช่วยให้เรามองเห็นสิ่งเล็ก ๆ ที่มีผลกระทบใหญ่หลวง ไม่ว่าจะเป็นเซลล์พืชที่ทนแล้ง หรืออนุภาคจุลินทรีย์ในมหาสมุทร สิ่งเหล่านี้นำไปสู่การค้นพบที่สามารถต่อยอดไปสู่การแก้ไขปัญหาในระดับภูมิภาคและระดับโลก”
ด้าน รศ. ดร.พิมลศรี มิตรภาพอาธร รองคณบดีฝ่ายวิชาการและวิเทศสัมพันธ์ คณะวิทยาศาสตร์ ในฐานะประธานจัดงาน ชี้ให้เห็นถึงเป้าหมายสำคัญของ MST42 ในการสร้างเวทีแห่งการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างนักวิทยาศาสตร์จากหลากหลายสาขา “จุลทรรศน์ไม่เพียงเป็นเครื่องมือ แต่เป็นสะพานเชื่อมต่อระหว่างการวิจัยเชิงลึกกับการประยุกต์ใช้งานจริงในอุตสาหกรรม เช่น ด้านสุขภาพ อาหาร พลังงาน และสิ่งแวดล้อม”
การประชุม MST42 ในครั้งนี้ถือเป็นการรวมตัวครั้งสำคัญของนักวิจัยระดับแนวหน้า โดยมีการนำเสนอผลงานจากผู้เชี่ยวชาญจากทั้งในและต่างประเทศ ทั้งในรูปแบบปาฐกถาพิเศษ 3 หัวข้อ การบรรยายรับเชิญอีก 11 หัวข้อ การนำเสนอผลงานปากเปล่า 7 เรื่อง และโปสเตอร์มากถึง 24 เรื่อง ครอบคลุมหัวข้อที่ทันสมัย เช่น การใช้จุลทรรศน์ในนาโนเทคโนโลยี การแพทย์แม่นยำ การวิเคราะห์สิ่งแวดล้อมระดับโมเลกุล รวมถึง การประกวดภาพถ่ายจุลทรรศน์ ที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้ถ่ายทอดความงดงามของโลกที่ซ่อนอยู่ภายใต้เลนส์จุลทรรศน์
ขณะที่ ผศ. ดร.ณัฐพล ชมแสง นายกสมาคมจุลทรรศน์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า MST42 ไม่ใช่แค่เวทีนำเสนอผลงาน แต่เป็นการเชื่อมโยงเครือข่ายนักวิทยาศาสตร์ข้ามทวีป มุ่งสู่การวิจัยเพื่อมนุษยธรรมและการแก้ปัญหาโลก” โดยในปีนี้ ดร.ฉันทนา ธนชัยนนท์ หนึ่งในคณะกรรมการของสมาคม ได้รับเลือกให้เป็นกรรมการของเครือข่ายสมาคมจุลทรรศน์แห่งประเทศไทยภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (Asia Pacific Societies for Microscopy) สะท้อนถึงบทบาทของประเทศไทยที่เริ่มมีอิทธิพลในระดับนานาชาติ
นอกจากความเข้มข้นทางวิชาการแล้ว งานครั้งนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากภาคอุตสาหกรรมอย่างแข็งขัน ทั้งในรูปแบบของนิทรรศการและการสนับสนุนการจัดงานจากบริษัทกว่า 15 แห่ง ทั้งในระดับ Platinum, Gold, Silver และ Bronze ซึ่งนำเทคโนโลยีล่าสุดมาจัดแสดง ไม่ว่าจะเป็นกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนขั้นสูง เครื่องวิเคราะห์วัสดุแบบ 3D และโซลูชันด้านภาพถ่ายระดับนาโน ซึ่งสามารถนำไปต่อยอดได้ทั้งในภาคการแพทย์ อุตสาหกรรมอาหาร และนวัตกรรมเพื่อสุขภาพ
คณะผู้จัดงานได้เปิดโอกาสให้งานวิจัยที่ผ่านการคัดเลือกจากการประชุมครั้งนี้สามารถตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับนานาชาติ อาทิ Microscopy and Microanalysis Research, Chiang Mai Journal of Science และ Journal of Health Science and Medical Research ซึ่งจะช่วยขยายผลการค้นพบให้เข้าถึงนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก “จงอย่าหยุดมอง แม้สิ่งนั้นจะเล็กเกินตาเปล่า เพราะบางทีคำตอบของปัญหาใหญ่ อาจอยู่ในสิ่งที่มองไม่เห็น” ข้อความสะท้อนหัวใจของ MST42 ที่จะยังคงเป็นเวทีแห่งการค้นพบ ความร่วมมือ และความหวังในอนาคตของโลกวิทยาศาสตร์ต่อไป