นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยผลการประเมินจำนวนนักท่องเที่ยวเบื้องต้นพบว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 8 มิ.ย. 68 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เดินทางเข้ามาสะสมแล้วกว่า 15 ล้านคน โดยนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียขยับขึ้นมาเป็นกลุ่มที่เดินทางเข้ามาสะสมเป็นอันดับที่ 1 หรือจำนวนกว่า 2 ล้านคน อีกทั้ง นักท่องเที่ยวชาวอินเดียเดินทางเข้ามาแตะระดับแล้วกว่า 1 ล้านคน สำหรับในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะไกล (Long haul) เดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก จากการมีวันหยุดต่อเนื่องในหลายประเทศของภูมิภาคตะวันออกกลาง ในขณะที่นักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะใกล้ (Short haul) ชะลอตัวด้านการเดินทางจากการสิ้นสุดการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดต่อเนื่องในสัปดาห์ก่อนหน้า ส่งผลให้ภาพรวมในสัปดาห์นี้มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 565,778 คน ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า 9,358 คน หรือร้อยละ 1.63 คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยเฉลี่ยวันละ 80,826 คน โดย 5 อันดับแรกของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้แก่ มาเลเซีย (114,018 คน) จีน (62,082 คน) อินเดีย (50,667 คน) เกาหลีใต้ (24,819 คน) และสิงคโปร์ (24,722 คน) โดยนักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ เกาหลีใต้ และอินเดีย มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าร้อยละ 26.47 ร้อยละ 7.04 และร้อยละ 1.45 ตามลำดับ ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวจีน และมาเลเซีย มีการปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าร้อยละ 18.82 และร้อยละ 10.62 ตามลำดับ
สําหรับในสัปดาห์ถัดไป คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น โดยมีปัจจัยส่งเสริมการเดินทาง ได้แก่ การเสร็จสิ้นการเลือกตั้งทั่วไปในเกาหลีใต้ การประกาศปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวและกีฬา การมีมาตรการ Ease of traveling ของรัฐบาลที่ช่วยเพิ่มการอํานวยความสะดวกในการเดินทางสู่ไทย การยกเว้นบัตรตม.6 รวมถึงการกระตุ้นและส่งเสริมให้สายการบินเพิ่มจํานวนเที่ยวบินมากยิ่งขึ้น
สรุปภาพรวมการท่องเที่ยวในสัปดาห์นี้ โดยข้อมูล ณ วันที่ 9 มิ.ย. 68 พบว่า ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 8 มิ.ย. 68 ที่ผ่านมาทั้งสิ้น 15,016,878 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 699,295 ล้านบาท โดยจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ มาเลเซีย (2,041,002 คน) จีน (2,029,481 คน) อินเดีย (1,035,864 คน) รัสเซีย (981,011 คน) และเกาหลีใต้ (702,267 คน)