สปส. ปรับหลักเกณฑ์ – เพิ่มสิทธิ ม. 40 รอบด้าน ยกระดับคุณภาพชีวิตผู้ประกันตนอาชีพอิสระ มีความมั่นคงไม่ต่างจากผู้ประกันตนมาตราอื่น

นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยถึงการพัฒนาสิทธิประโยชน์สำหรับประกันสังคมมาตรา 40 ว่า เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2568 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการ (ร่าง) พระราชกฤษฎีกากำหนดหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินสมทบ ประเภทของประโยชน์ทดแทน ตลอดจนหลักเกณฑ์และเงื่อนไขแห่งสิทธิในการรับประโยชน์ทดแทนของบุคคลซึ่งสมัครเป็นผู้ประกันตน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. โดยมีการปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์หลายกรณี และปรับปรุงหลักเกณฑ์เพื่อการเข้าถึงสิทธิได้มากขึ้นในการรับสิทธิประโยชน์กรณีต่างๆ ของผู้ประกันตน ดังนี้

1. ปรับหลักเกณฑ์การได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย โดยให้ผู้ประกันตนมาตรา 40 ทุกทางเลือก หากประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย โดยไม่ได้พักรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลและไม่มีความเห็นของแพทย์ให้หยุดพักเพื่อการรักษาพยาบาลให้มีสิทธิได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ ครั้งละ 200 บาท จำนวนไม่เกิน 3 ครั้งต่อปี และให้ได้รับสิทธิเงินทดแทนการขาดรายได้ความเห็นความเห็นแพทย์ที่ให้หยุดพักเพื่อการรักษาพยาบาล ตั้งแต่ 1 วันขึ้นไป ในอัตราวันละ 200 บาท โดยทางเลือกที่ 1 และทางเลือกที่ 2 มีสิทธิได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ไม่เกิน 30 วันต่อปี สำหรับทางเลือกที่ 3 มีสิทธิได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ไม่เกิน 90 วันต่อปี

2. ปรับหลักเกณฑ์การได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ในกรณีที่เกิดการระบาดของโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ และรับบริการตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข อาทิ กรณีการระบาดของโรคโควิด-19 ในระหว่างวันที่ 26 มีนาคม ถึง 30 พฤศจิกายน 2565 ผู้ประกันตนที่ได้รับคำสั่งจากเจ้าพนักงานการควบคุมโรคติดต่อให้กักตัวตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุขให้มีสิทธิได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ หรือตามมาตรการของรัฐ ให้มีสิทธิได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ แม้ไม่ได้เข้ารับบริการ ณ สถานพยาบาลที่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน

3. ปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์ในกรณีทุพพลภาพ โดยผู้ประกันตนมาตรา 40 ทางเลือกที่ 1 และทางเลือกที่ 2 ที่ได้รับการวินิจฉัยจากคณะกรรมการแพทย์แล้วว่าเป็นผู้ทุพพลภาพหรือทุพพลภาพเพิ่มขึ้นมีสิทธิได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้เพิ่มเป็นอัตราเดือนละ 1,000 – 2,000 บาท/เดือน ผู้ประกันตนมาตรา 40 ทางเลือกที่ 3 รับเงินทดแทนการขาดรายได้เพิ่มเป็นอัตราเดือนละ 1,500 – 3,000 บาท และขยายระยะเวลาความคุ้มครองทุกทางเลือกให้ได้รับเงินทดแทนตลอดชีวิต

4. ปรับปรุงแก้ไขผู้มีสิทธิได้รับเงินบำเหน็จชราภาพของผู้ประกันตนมาตรา 40 ทางเลือก 2 และ 3 ที่ถึงแก่ความตายก่อนอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ หรือก่อนที่จะได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีชราภาพจากเดิมให้มีสิทธิเฉพาะทายาทตามกฎหมายแก้ไขเพิ่มเติมให้สามารถจ่ายเงินให้แก่บุคคลซึ่งผู้ประกันตนทำหนังสือระบุให้เป็นผู้มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีชราภาพนั้น แต่ถ้าไม่ได้ทำหนังสือระบุไว้ให้นำมาเฉลี่ยจ่ายให้แก่สามีภริยา บิดามารดา หรือบุตรของผู้ประกันตนในจำนวนที่เท่ากัน

5. ปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์ทดแทนในกรณีสงเคราะห์บุตร ให้ได้รับอัตราเงินสงเคราะห์บุตรเพิ่มเป็น จำนวน 300 บาท/คน/เดือน คราวละไม่เกิน 2 คน และขยายอายุให้ได้รับสิทธิไม่เกิน 7 ปีบริบูรณ์

นางมารศรี กล่าวต่อไปว่า ลำดับต่อไปสำนักเลขานุการ คณะรัฐมนตรีจะได้ส่งเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบแล้วไปยังสำนักงานประกันสังคมคณะกรรมการกฤษฎีกาหรือตรวจพิจารณาร่างกฎหมาย หรือเสนอให้นายกรัฐมนตรีนำขึ้นทูลเกล้าฯ ในหลวงทรงลงพระพระปรมาภิไธยและประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป สำนักงานประกันสังคมมีความมุ่งมั่น ที่จะพัฒนาสิทธิประโยชน์ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตผู้ประกันตน ไม่ว่าจะเป็นแรงงานในระบบหรือแรงงานภาคอิสระ เพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์ที่มากขึ้น และมีหลักประกันทางสังคมที่เท่าเทียม