สถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 6 มิ.ย. 68 เวลา 7.00 น.

1. ปริมาณฝนสะสม 24 ชม. สูงสุด ได้แก่ ภาคเหนือ : จ.เชียงใหม่ (62 มม.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จ.กาฬสินธุ์ (109 มม.) ภาคตะวันตก : จ.ราชบุรี (69 มม.) ภาคกลาง : จ.สมุทรสาคร (61 มม.) ภาคตะวันออก : จ.ระยอง (93 มม.) ภาคใต้ : จ.ตรัง (169 มม.)

สภาพอากาศวันนี้ : มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย กับมีร่องมรสุมกำลังอ่อนพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบนและประเทศลาวตอนบน ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกยังคงมีฝนฟ้าคะนอง

คาดการณ์ : ช่วงวันที่ 7 – 11 มิ.ย. 68 ร่องมรสุมกำลังปานกลางจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออก เฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลางและมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคกลางตอนล่าง ภาคใต้ ภาคตะวันออกและอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

2. สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในภาพรวม : ปริมาณน้ำรวม 56% ของความจุเก็บกัก (45,193 ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำใช้การ 36% (21,078 ล้าน ลบ.ม.)

3.การระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา : กรมชลประทาน ปรับลดการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์น้ำฝนและน้ำท่า จากอัตรา 900 ลบ.ม.ต่อวินาที เหลืออัตรา 800 ลบ.ม.ต่อวินาที ตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายน 2568 เวลา 06.00 น. (ชั่วโมงละ 10 ลบ.ม.ต่อวินาที โดยประมาณ) และคงอัตราดังกล่าวต่อเนื่อง

3.ข่าวประชาสัมพันธ์ : สทนช. เปิดศูนย์ส่วนหน้าฯ ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคตะวันออก หลังคาดว่าจะมีฝนตกหนัก

วานนี้ (5 มิถุนายน 2568) นายไวฑิต โอชวิช ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์น้ำ รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานการประชุมคณะทำงานอำนวยการบริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยลุ่มน้ำชายฝั่งทะเลตะวันออก และลุ่มน้ำบางปะกง ครั้งที่ 1/2568 ณ องค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง โดยมีผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมในที่ประชุมและผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
ในที่ประชุมได้ร่วมหารือแนวทางการบริหารจัดการสถานการณ์น้ำในช่วงฤดูฝน รวมทั้งปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ ซึ่งศูนย์ส่วนหน้าฯ จะช่วยเหลือและสนับสนุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานของทุกหน่วยงานอย่างเต็มที่ พร้อมกันนี้ ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหน่วยงานที่รับผิดชอบอ่างเก็บน้ำต่าง ๆ จะต้องบริหารจัดการน้ำ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ พร้อมทั้งดูแลรักษาความมั่นคงของอ่างฯ และให้หน่วยงานเตรียมความพร้อมเครื่องจักร เครื่องมือ บุคลากร และสถานีโทรมาตร โดยให้เร่งซ่อมแซมโดยเร็วหากเกิดความเสียหาย เพื่อให้มีความพร้อมดำเนินการและสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดช่วงฤดูฝนนี้

นอกจากนี้ ได้มอบหมายกรมทรัพยากรน้ำและกรมทรัพยากรธรณี วิเคราะห์ความเสี่ยงการเกิดน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม เพื่อให้คณะทำงานฯ นำข้อมูลไปใช้ในการจัดทำแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหารองรับความเสี่ยงต่อไป และให้คณะทำงานฯ จัดลำดับความสำคัญในการวางแผนแก้ไขปัญหาพื้นที่เปราะบางในแต่ละจังหวัด และนำมาจัดทำแผนแก้ไขปัญหาให้ทันต่อสถานการณ์ ทั้งนี้ ศูนย์ส่วนหน้าฯ จะบูรณาการข้อมูลจากหน่วยงานต่าง ๆ ให้มีความเป็นเอกภาพ เพื่อให้กรมประชาสัมพันธ์นำไปเผยแพร่และสร้างการรับรู้ให้ประชาชนสามารถเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที