กระทรวงสาธารณสุข บริษัท มหาหมอ จำกัด และ องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “โครงการ 9 ย่างเพื่อสร้างลูก” เพื่อพัฒนาศักยภาพของเด็กไทยตั้งแต่เริ่มต้นชีวิต
วันที่ 5 มิถุนายน 2568 นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังเป็นประธานลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “โครงการ 9 ย่างเพื่อสร้างลูก”ณ ห้องวีนัส 1 อาคารอิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น เซ็นเตอร์ ชั้นลอย โซนอาคาร 5 จังหวัดนนทบุรี ว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิต โดยเฉพาะในช่วง 3 ปีแรก สมองของเด็กจะพัฒนาและมีการทำงานเป็น 2 เท่า เมื่อเทียบกับการทำงานของสมองผู้ใหญ่ การดูแลตั้งแต่ตั้งครรภ์ การอบรมเลี้ยงดู การส่งเสริมพัฒนาเด็กที่เหมาะสม จะช่วยกระตุ้นพัฒนาการของสมอง ร่างกาย อารมณ์ และสติปัญญาแก่เด็กปฐมวัย และจะส่งผลโดยตรงต่อพัฒนาการทางสติปัญญาและทางสังคมของเด็ก กระทรวงสาธารณสุขจึงมุ่งเน้นการให้ความรู้ สร้างทัศนคติ และทักษะการดูแลเลียงดูเด็ก โดยใช้สื่อเทคโนโลยี และนวัตกรรมต่าง ๆ ซึ่งโครงการ 9 ย่างเพื่อสร้างลูก เป็นนวัตกรรมสำคัญที่เชื่อมโยงความรู้ด้านการดูแลสุขภาพแม่และเด็ก ผ่านเทคโนโลยีที่เข้าถึงง่ายอย่างแอปพลิเคชันไลน์แอด (Line@) โดยมุ่งหวังให้พ่อแม่ ผู้ปกครอง และ ผู้เลี้ยงดูเด็กสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน และเหมาะสมกับช่วงวัยของลูก ทั้งนี้ เนื้อหาที่ถ่ายทอดผ่านแพลตฟอร์มนี้ ครอบคลุมการดูแลสุขภาพตั้งแต่ตั้งครรภ์ การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ไปจนถึงการเลี้ยงดูเด็กจนถึงอายุ 6 ปี รวมถึงการส่งเสริมทักษะ การกระตุ้นพัฒนาการ และสร้างความมั่นใจให้พ่อแม่ในการเลี้ยงลูกอย่างเหมาะสม
“กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมอนามัย บริษัท มหาหมอ จำกัด และองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย จึงมีเจตนารมณ์ร่วมกันในการสร้างเครือข่ายการสื่อสาร Parenting Communication Platform โดยพัฒนาเทคโนโลยี และระบบปัญญาประดิษฐ์ เพื่อเชื่อมโยงกับ Line@ ในการให้ความรู้ในการดูแลสุขภาพ แนะนำ กิจกรรมสร้างพัฒนาการเด็กด้านต่าง ๆ ตามช่วงวัย โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ผ่านโครงการ 9 ย่างเพื่อสร้างลูก เพื่อช่วยให้ครอบครัวและผู้เลี้ยงดู สามารถเข้าถึงและได้รับบริการที่มีคุณภาพ” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าว
ทางด้าน แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า งานวิจัยจำนวนมากทั้งในประเทศและต่างประเทศ ชี้ชัดว่า สมองของเด็กในช่วงปฐมวัยจะพัฒนาอย่างรวดเร็ว ซึ่งการกระตุ้นพัฒนาการด้วยการโอบกอด พูดคุย เล่น หรือ ให้นมแม่ จะส่งผลต่อโครงสร้างและการทำงานของสมองในระยะยาว พ่อแม่ ผู้ปกครอง และผู้เลี้ยงดูจึงต้องได้รับ “การเตรียมความพร้อม” ทั้งในด้านความรู้ ทัศนคติ และทักษะในการดูแลเลี้ยงดูเด็กอย่างเหมาะสม เข้าใจพัฒนาการของลูก เข้าใจความแตกต่างของเด็กแต่ละคน และสามารถตอบสนองต่อความต้องการของเด็กด้วยความรัก ความเข้าใจ และความมั่นคงทางอารมณ์ การเตรียมพ่อแม่ให้พร้อมตั้งแต่ก่อนคลอด จึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด ทั้งในระดับครอบครัว สังคม และประเทศชาติ
นายแพทย์ปกรณ์ ตุงคะเสรีรักษ์ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันมีผู้ติดตาม Line OA 9 ย่าง จำนวน 191,106 คน และจำนวนผู้กดติดตามเพจ 9 ย่างเพื่อสร้างลูก จำนวน 87,628 คน เพื่อรับข่าวสารการดูแลสุขภาพตั้งแต่ตั้งครรภ์ หลังคลอด การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ จนถึงการเลี้ยงลูกตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุครบ 6 ปี เพื่อช่วยให้ครอบครัว และผู้เลี้ยงดูเด็ก มีความรู้ ทักษะ ทัศนคติที่ดี และสามารถเข้าถึงการรับบริการที่มีคุณภาพ เพราะเมื่อเด็กได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมในช่วงปีแรกของชีวิต เขาจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ และเป็น “รากฐานของสังคมที่มั่นคงในวันข้างหน้า”