อย. เดินหน้าคุมเข้มผักผลไม้ ปกป้องคุณภาพชีวิตคนไทย

อย. เข้มงวดมาตรการตรวจสอบผักและผลไม้ในประเทศและนำเข้า พร้อมจับมือภาคีเครือข่ายทั้งรัฐและเอกชนแก้ไขปัญหาสารพิษตกค้างทางการเกษตรตลอดห่วงโซ่ เพื่อผู้บริโภครับประทานได้อย่างปลอดภัย

นายแพทย์สุรโชค ต่างวิวัฒน์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ตระหนักถึงผลกระทบของสารพิษตกค้างทางการเกษตรในผักผลไม้ โดยมีมาตรการตรวจสอบอย่างเข้มงวด ในส่วนผักผลไม้นำเข้าผ่านทางด่านอาหารและยา ใช้หลักบริหารจัดการความเสี่ยง กรณีเป็นผักผลไม้กลุ่มความเสี่ยงสูงมาก จะถูกอายัดและเก็บตัวอย่างตรวจวิเคราะห์สารพิษตกค้าง ทราบผลภายใน 24 ชั่วโมง หากผ่านเกณฑ์จึงจะถอนอายัดให้จำหน่ายในประเทศได้ แต่หากไม่ผ่านจะอายัดสินค้าและดำเนินคดีกับผู้นำเข้าทุกราย สำหรับผักผลไม้กลุ่มอื่น หากสุ่มเก็บตัวอย่างแล้วพบว่าผลการทดสอบไม่ผ่านตามข้อกำหนด อย.จะยกระดับเป็นผักผลไม้กลุ่มความเสี่ยงสูงมากทันที

ส่วนมาตรการตรวจสอบผักผลไม้ภายในประเทศ อย. มีมาตรการร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ตรวจสอบโรงคัดบรรจุผักผลไม้ทั่วประเทศ พร้อมสุ่มเก็บตัวอย่างส่งหาสารพิษตกค้างและตรวจสอบฉลาก เพื่อกำกับดูแลให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ GMP และ อย.สนับสนุนให้มีการปลูกผักผลไม้ตามมาตรฐาน GAP เพื่อทดแทนการนำเข้าและแก้ปัญหาในระยะยาว

ที่สำคัญ อย. จะเสริมสร้างความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สถานทูต ผู้ประกอบการ และสมาคมผู้ประกอบกิจการ เพื่อร่วมกันกำกับดูแลสารพิษตกค้างทางการเกษตรตลอดห่วงโซ่ ส่งผลให้ผู้บริโภคได้รับผักผลไม้ที่มีคุณภาพและปลอดภัย

นายแพทย์สุรโชค ต่างวิวัฒน์ กล่าวย้ำในตอนท้ายว่า อย. ขอแนะนำให้ประชาชนล้างผักผลไม้ให้ถูกวิธีก่อนการบริโภคทุกครั้ง โดยมี 3 วิธี คือ 1) ล้างด้วยน้ำเปล่า ให้แช่ผักผลไม้ในน้ำนาน 15 นาที จากนั้นเปิดน้ำไหล ถูไปมาเบาๆ อีกไม่น้อยกว่า 30 วินาที 2) ล้างด้วยโซเดียมไบคาร์บอเนต (ผงฟู/เบคกิ้งโซดา) 1 ช้อนชา ต่อน้ำสะอาด 4 ลิตร แช่ให้ท่วมผักผลไม้ นาน 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด และ 3) ล้างด้วยน้ำเกลือ ผสมเกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 2 ลิตร แช่ให้ท่วมผักผลไม้ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด