28 พฤษภาคม 2568 – นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว (คบต.) ครั้งที่ 4/2568 โดยมีนายสันติ นันตสุวรรณ รองปลัดกระทรวงแรงงาน นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน ผู้บริหารกระทรวงแรงงาน และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สภาความมั่นคงแห่งชาติ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ร่วมประชุม ณ กระทรวงแรงงาน โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ ขยายเวลาผ่อนผันแรงงานเมียนมา จำนวน 1.8 ล้านคน ที่อยู่ในระหว่างรอการรับรองจากรัฐบาลเมียนมา ให้อยู่และทำงานต่อในประเทศไทยได้อีก 6 เดือน
นายพิพัฒน์ ได้กล่าวต่อ เพื่อทำความเข้าใจให้ นายจ้างและ ลูกจ้าง ถึง 3 จุดเด่นตามนโยบาย
1. ขยายสิทธิอยู่และทำงานต่อชั่วคราว ให้แรงงานเมียนมาที่อยู่ในระบบและนายจ้างได้ยื่นบัญชีรายชื่อไว้ตามมติ ครม. เดิม จะได้รับสิทธิอยู่ต่ออีก 6 เดือน และเมื่อดำเนินการครบถ้วน จะได้รับใบอนุญาตทำงาน มีอายุ 2 ปี
2. นายจ้างยื่นคำขอผ่านระบบออนไลน์
3. แรงงานต้องตรวจสุขภาพ – ทำประกันสุขภาพ แรงงานทุกคนต้องตรวจสุขภาพกับสถานพยาบาลที่ได้รับอนุญาต และต้องทำประกันสุขภาพตลอดช่วงที่ทำงาน ไม่ว่าจะอยู่ในระบบประกันสังคมหรือไม่
นายพิพัฒน์ ระบุว่า กระทรวงแรงงานจะเร่งเสนอเรื่องนี้ต่อคณะรัฐมนตรีโดยเร็ว เพื่อป้องกันปัญหาแรงงานขาดแคลนในภาคธุรกิจ และปกป้องแรงงานจากการกลายเป็นผู้พำนักผิดกฎหมาย ซึ่งเกิดจากปัญหาภายในของเมียนมา ไม่สามารถส่งข้อมูลแรงงานผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ตามกำหนดได้ ซึ่งทางภาครัฐ เห็นใจทั้งนายจ้างและแรงงาน การผ่อนผันครั้งนี้คือการช่วยให้ธุรกิจเดินหน้าได้ต่อเนื่อง และแรงงานอยู่ในระบบอย่างถูกกฎหมาย พร้อมเข้าถึงสิทธิพื้นฐาน เช่น ประกันสุขภาพและประกันสังคม
ด้านนายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่าการประชุม คบต. ครั้งนี้ ยังสะท้อนถึงการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวที่เชื่อมโยงทุกหน่วยงาน ทั้งกระทรวงมหาดไทย สาธารณสุข ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และภาคเอกชน โดยใช้แนวทางกฎหมายควบคู่กับเทคโนโลยี เช่น การยื่นคำขอผ่านระบบออนไลน์ การเชื่อมโยงข้อมูลประกันสุขภาพ ปรับปรุงทะเบียนประวัติและออกบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งนโยบายสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงด้านความมั่นคงและสิทธิมนุษยชน
นายสมชาย ได้กล่าวให้ คำแนะนำสำหรับนายจ้างและแรงงาน ว่าให้ติดตามประกาศอย่างใกล้ชิด เมื่อ ครม. เห็นชอบและมีประกาศจากกระทรวงมหาดไทย – แรงงาน แล้ว จึงสามารถดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปได้ เร่งเตรียมเอกสาร เพื่อยื่นคำขอให้ทันภายในระยะเวลาที่กำหนด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ สำนักงานจัดหางานจังหวัด/พื้นที่ หรือสายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 กด 2 และสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694