ฝนชุกตอนบน ชป.ปรับแผนการระบายน้ำเจ้าพระยา รับมือน้ำเหนือ ลดผลกระทบด้านท้ายน้ำ

ดร.ธเนศร์ สมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา ในฐานะโฆษกกรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์ฝนที่ตกชุกอย่างต่อเนื่อง โดยหลายพื้นที่มีฝนตกหนักถึงหนักมาก เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังปานกลาง ส่งผลให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นในช่วงวันที่ 23 – 27 พ.ค. 68 โดยเฉพาะในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก

จากการติดตามสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยาอย่างใกล้ชิด พบว่าปัจจุบัน (26 พ.ค. 68 เวลา 06.00น.) ที่สถานีวัดระดับน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำจากพื้นที่ตอนบนไหลผ่านเพิ่มขึ้นในอัตรา 865 ลบ.ม. / วินาที ส่งผลต่อเนื่องให้ระดับน้ำบริเวณหน้าเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ยกตัวสูงขึ้นอยู่ที่ระดับ +15.47 ม.รทก. และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เพื่อเป็นการรับมือสถานการณ์ดังกล่าว กรมชลประทาน ได้ระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ในอัตรา 490 ลบ.ม./วินาที โดยวางแผนควบคุมระดับน้ำหน้าเขื่อนไม่ให้เกิน +16.20 ม.รทก. คาดการณ์ว่าปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จะมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 500 – 700 ลบ.ม. / วินาที อาจทำให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ตั้งแต่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ถึง ต.บ้านกระทุ่ม ต.หัวเวียง อ.เสนา และต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา เพิ่มขึ้นประมาณ 1 – 1.20 เมตร ซึ่งระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นนี้ ยังคงอยู่ในตลิ่งและไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ริมน้ำ

ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนไปยังจังหวัดในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริม 2 ฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยา ให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำในระยะนี้อย่างใกล้ชิด หากระดับน้ำทางตอนบนเพิ่มสูงขึ้น และส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น จะแจ้งให้ทราบเป็นระยะต่อไป