ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมสภาของสถาบันวัคซีนนานาชาติ ปี 2568 ที่ “เกาหลีใต้” หารือแผนด้านวัคซีนของประเทศสมาชิก ทิศทางการพัฒนาและเพิ่มการเข้าถึงวัคซีนในประเทศรายได้น้อย-ปานกลาง รองรับการระบาด “โรคไข้หวัดนก” ด้าน “ไทย” เสนอผลักดันการจัดการ “โรคฉี่หนู” เป็นวาระระดับโลก พร้อมศึกษาโรงงานวัคซีนชั้นนำของโลก เพื่อการวิจัยพัฒนาวัคซีนไข้หวัดใหญ่ H7N9 ในไทย
วันที่ 9 พฤษภาคม 2568 ที่กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานสภาของสถาบันวัคซีนนานาชาติ (International Vaccine Institute : IVI) เป็นประธานการประชุมสภาสถาบันวัคซีนนานาชาติ ประจำปี 2568 (IVI Global Council 2025) โดยมี ดร.เจอโรม คิม ผู้อำนวยการใหญ่สถาบันวัคซีนนานาชาติ (IVI Director General) นายจอร์จ บิกเกอร์สตาฟฟ์ Chairperson of IVI Board of Trustees นายแอนเดอร์ นอร์ดสตรอม Chairperson of the IVI Global Advisory Group of Experts และผู้แทนจากประเทศสมาชิก IVI 60 คน จาก 16 ประเทศเข้าร่วม ซึ่งรวมถึงผู้แทนประเทศไทย ได้แก่ นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข นพ.ดิเรก สุดแดน ผู้ช่วยปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ รักษาการนายแพทย์ทรงคุณวุฒิและผู้อำนวยการกองการต่างประเทศ พญ.จุไร วงศ์สวัสดิ์ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ และนางพรทิพย์ วิรัชวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ องค์การเภสัชกรรม
นพ.โอภาสกล่าวว่า ในการประชุมครั้งนี้ สภาสถาบันวัคซีนนานาชาติได้รับทราบแผนยุทธศาสตร์ระดับชาติด้านวัคซีนของประเทศสมาชิกทั่วโลก ทิศทางการพัฒนาและเพิ่มการเข้าถึงวัคซีนจำเป็นโดยเฉพาะในกลุ่มประเทศรายได้น้อยและปานกลาง เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการระบาดของโรคติดต่อสำคัญ โดยเฉพาะ “โรคไข้หวัดนก” ที่มีความเสี่ยงในการแพร่เชื้อมาสู่มนุษย์มากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงเพื่อสร้างความมั่งคงให้แก่ระบบสุขภาพโลก และยังมีการศึกษาแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีการผลิตและการศึกษาวิจัยในการพัฒนาวัคซีนไข้หวัดใหญ่ของโรงงานวัคซีนชั้นนำในเกาหลีใต้และองค์การเภสัชกรรม เพื่อยกระดับการเข้าถึงวัคซีนของคนไทย นอกจากนี้ ตัวแทนประเทศไทยยังได้รายงานความก้าวหน้าในการผลักดันวาระการจัดการโรคฉี่หนูให้เป็นวาระระดับโลก การร่วมเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมร่วม (Side Event) ในห้วงการประชุมสมัชชาอนามัยโลกครั้งที่ 78 ในช่วงวันที่ 19 – 27 พฤษภาคม นี้ เพื่อสร้างความตระหนักของโรคฉี่หนู โดยจะมีการติดตามความก้าวหน้าในการประชุมครั้งต่อไปในรูปแบบออนไลน์ปลายปี 2568
“ในระหว่างการจัดประชุม เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา สถาบันวัคซีนนานาชาติยังได้จัดศึกษาดูงานโรงงานเทคโนโลยีชีวภาพผลิตวัคซีนชั้นนำของโลก 2 แห่ง ได้แก่ SK Bioscience ซึ่งผลิตวัคซีนโควิด 19 AstraZeneca และ Novavax และศูนย์ K-Bio CMO Center ซึ่งเป็นศูนย์ผลิต ฝึกอบรมบุคลากรด้านการผลิตวัคซีน รวมทั้งการจัดการวัคซีนครบวงจรที่ร่วมมือกับหน่วยงานท้องถิ่น เพื่อศึกษาเทคโนโลยีการผลิตและการศึกษาวิจัย เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาวัคซีน เสริมสร้างความมั่นคงด้านวัคซีนของประเทศ ซึ่งไทยมีแผนการพัฒนาวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ H7N9 ชนิดเชื้อตายด้วยเทคโนโลยีการใช้เซลล์เพาะเลี้ยงด้วย” นพ.โอภาสกล่าว