“เสมา 3 ลุยข้ามเขา ทลายทุกข้อจำกัดลงพื้นที่ “Bamboo School” สังขละบุรี จุดเริ่มต้นของการจัดการศึกษาแก่เด็กๆ ผู้ยากไร้ตามแนวชายขอบของประเทศไทย!!

วันที่ 20 ก.ย. 62 ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย นายยศวัฒน์ มาไพศาลสิน สส.กาญจนบุรี เขต1,นาย กมล รอดคล้าย ที่ปรึกษา รมช. ศึกษาธิการ,นายพะโยม ชิณวงศ์ ประธานคณะทำงาน รมช.ศึกษาธิการ นายมณฑล ภาคสุวรรณ์ รองเลขาธิการ กช. และคณะลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจการจัดการศึกษาโรงเรียนลาซาลสังขละบุรี และเยี่ยมชมการจัดการเรียนการสอนของศูนย์ “Bamboo School” จุดเริ่มต้นของการจัดการศึกษาแก่เด็กๆ ผู้ยากไร้ตามแนวชายขอบของประเทศไทย โดยมูลนิธิลาซาลแห่งประเทศไทย

รมช.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ตนตั้งใจที่จะเดินทางมาอำเภอสังขละบุรี เพื่อสร้างความเท่าเทียมและความเสมอภาคด้านการศึกษาให้เกิดขึ้นในทุกพื้นที่ เนื่องจากอำเภอสังขละบุรีตั้งอยู่ใกล้ชายแดนไทย – พม่า ซึ่งประชากรที่นี่นอกจากมีคนไทยแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มชาติพันธุ์หลายเชื้อชาติ เช่น กะเหรี่ยง พม่า มอญ ลาว บางคนยังไม่ได้รับสถานะความเป็นพลเมืองไทย ทำให้เด็กที่เกิดมาไม่สามารถรับสิทธิขั้นพื้นฐานได้ และขาดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ขาดความรู้เรื่องสาธารณสุขตลอดจนการประกอบอาชีพ เนื่องจากการบริการของรัฐยังไม่ครอบคลุมบุคคลกลุ่มนี้ โดยวันนี้ได้ตั้งใจลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์การเรียนลาชาล (Bamboo School) และโรงเรียนลาซาล สังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี

และกล่าวเพิ่มเติมว่า “ขอชื่นชม การจัดการศึกษาของ โรงเรียนลาซาลสังขละบุรี ซึ่งคณะลาซาลได้ดำเนินการ จัดการศึกษาให้แก่เด็กผู้ยากไร้ตามแนวชายขอบของประเทศโดยเริ่มจากการเป็นศูนย์การเรียนรู้ Bamboo School และได้ขยายเป็นโรงเรียนลาซาลสังขละบุรีในปัจจุบัน เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กทุกคนได้รับโอกาสการศึกษาอย่างเท่าเทียมกัน โดยโรงเรียนไม่มีการเก็บค่าเทอม ค่ารถรับส่งหรืออาหารกลางวันใดๆจากผู้ปกครอง ซึ่งตลอดระยะเวลา 12 ปีได้ดำเนินกิจการตามเจตนารมณ์ของมูลนิธิลาซาล คือ การสร้างอนาคตที่ดีให้กับเด็กๆทุกคนด้วยการศึกษาโดยเฉพาะผู้ยากไร้ และขอขอบคุณเครือคาทอลิคที่ได้เข้ามาช่วยรัฐบาลจัดการศึกษาให้กับเด็กดูแลอย่างมีเมตตา ด้วยความรัก โดยไม่เลือกสัญชาติ ศาสนา โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย พร้อมปลูกฝั่งให้มีความรักชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ ซึ่งถือเป็นพื้นฐานที่ดีในการเตรียมเด็กและเยาวชนให้เติบโตเป็นบุคคลที่มีคุณภาพ อย่างไรก็ตามโรงเรียนยังมีงบประมาณที่จำกัดเนื่องจากเด็กส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับสัญชาติ จึงไม่ได้รับเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายรายหัว เนื่องด้วยยังมีข้อจำกัดในเรื่องของข้อกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง หลังจากนี้จะประชุมหารือกับคณะทำงาน เพื่อหาวิธีแก้ไขต่อไป เบื้องต้นได้มอบหมายให้ศึกษาธิการจังหวัด หาแนวทางแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด โดยจะต้องทลายทุกข้อจำกัดและไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” รมช.ศึกษาธิการ กล่าว!!