สธ. ห่วง อ.หาดใหญ่ และอ.เมืองยะลา ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน แนะประชาชนป้องกันตนเอง

กระทรวงสาธารณสุข ห่วงใยสุขภาพประชาชนในพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะตำบลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และตำบลสะเตง อำเภอเมือง จังหวัดยะลา ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์หมอกควันในภาคใต้ ปริมาณค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน แนะประชาชนป้องกันตนเอง งดกิจกรรมกลางแจ้ง หากจำเป็นต้องออกจากบ้านให้สวมหน้ากากอนามัย

นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ติดตามสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กในภาคใต้ที่ได้รับผลกระทบจากหมอกควันจากเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ให้คำแนะนำเชิงรุกร่วมกับภาคีเครือข่ายในการป้องกันสุขภาพทั้งประชาชนทั่วไปและกลุ่มเสี่ยง พร้อมสนับสนุนหน้ากากอนามัย จำนวน 2,000 ชิ้นให้แก่ศูนย์อนามัยที่ 12

สำหรับสถานการณ์วันที่ 19 กันยายน 2562 เวลา 06.00 น. มีพื้นที่ 2 จุดที่ปริมาณค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน เกินมาตรฐาน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ได้แก่ ตำบลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา มีค่าปริมาณฝุ่นละออง 65 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และตำบลสะเตง อำเภอเมือง จังหวัดยะลา มีค่าปริมาณฝุ่นละออง 56 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งอยู่ในระดับสีส้มเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

“ขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์ฝุ่นละอองในอากาศจากกรมควบคุมมลพิษ “แอพลิเคชั่น air4thai” หรือเฟซบุ๊กเพจ “คนรักอนามัย ใส่ใจอากาศ PM2.5” หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมหรือออกกำลังกายกลางแจ้ง หากจำเป็นต้องออกนอกบ้านให้สวมหน้ากากป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก และไม่ควรอยู่นอกบ้านเป็นเวลานาน สำหรับเด็กและผู้สูงอายุ หากไม่จำเป็นไม่ควรพาไปในพื้นที่ที่มีฝุ่นละอองเยอะ ทั้งนี้ ควรหมั่นสังเกตอาการที่อาจเกิดขึ้น หากมีอาการผิดปกติ เช่น ไอบ่อย หายใจลำบาก หายใจถี่ หรือวิงเวียนศีรษะ ให้รีบไปพบแพทย์ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422” นายแพทย์สุขุม กล่าว

ทั้งนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนชาวภาคใต้ที่ได้รับผลกระทบหมอกควันในภาคใต้ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน ได้มอบหมายให้นายธนิตพล ไชยนันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ในวันที่ 20 กันยายน 2562 เพื่อติดตามการช่วยเหลือประชาชนอย่างใกล้ชิด