กรมทะเล รายงานผลการชันสูตรซากพะยูนเกยตื้น จ.ภูเก็ต

วันที่ 8 มกราคม 2568 ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่าตนมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน (ศวอบ.) เร่งชันสูตรซากพะยูนเกยตื้นที่ได้รับจากชาวประมงบริเวณอ่าวปอ ว่าพบซากพะยูนเกยตื้นบริเวณกลางทะเลหน้าเกาะนาคาใหญ่ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต จึงได้ประสานงานเข้าพื้นที่ร่วมกับ ศรชล. ภาค 3 จ.ภูเก็ต จากการตรวจสอบพบพะยูน อยู่ในช่วงวัยเด็ก ความยาว 200 ซม น้ำหนัก 142 กก. สภาพซากเริ่มเน่า ความสมบูรณ์ของร่างกายอยู่ในระดับสมบูรณ์ดี (BCS 3/5) ทำการตรวจร่างกายภายนอกพบรอยแผลจากพฤติกรรมฝูง รอยแผลถลอก รอยช้ำ และบริเวณปลายหางด้านซ้ายขาดหายมีลักษณะเป็นรอยแผลขอบคม เพรียงเกาะบริเวณหลังเล็กน้อย เมื่อเปิดชันสูตรซากพบกล้ามเนื้อบริเวณด้านซ้ายของลำตัวมีรอยช้ำ และส่วนของกระดูกซี่โครงด้านซ้ายซี่ที่ 12-18 พบรอยหัก และบริเวณปีกกระดูกสันหลังส่วนเอวที่ 1-3 พบรอยหัก และส่วนของผนังช่องอกและช่องท้องเกิดการฉีกขาดเสียหาย ส่งผลทำให้ส่วนของปอด ลำไส้และไต ได้รับความเสียหายและพบภาวะเลือดออกภายในช่องท้อง ส่วนของทางเดินอาหารพบเศษหญ้าทะเลในช่องปาก ส่วนกระเพาะอาหารมีหญ้าทะเลอัดแน่น พบอาหารตลอดลำไส้เล็กและใหญ่แสดงถึงการกินอาหารได้ตามปกติ สันนิษฐานสาเหตุการเสียชีวิตของพะยูนคาดว่าเกิดจากการเสียชีวิตเฉียบพลันจากภาวะช็อคจากการเสียเลือด ซึ่งเป็นผลมาจากอาการบาดเจ็บอย่างรุนแรงจนเสียเลือดปริมาณมาก โดยลักษณะของบาดแผลข้างลำตัวคาดว่าเกิดจากการกระแทกอย่างแรงจากเรือหรือเจ็ทสกี

ทั้งนี้ ตนอยากขอความร่วมมือไปยังพี่น้องประชาชน เครือข่ายประมงพื้นบ้าน ประมงพาณิชย์ องค์กรภาคเอกชน ผู้ประกอบการโรงแรม เครือข่ายจิตอาสาประชาสังคม ร่วมกันดูแล เฝ้าระวัง และป้องกันผลกระทบต่อพะยูนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต รวมถึงพื้นที่ฝูงพะยูนอพยพในเขตจังหวัดอันดามัน เพื่อร่วมกันป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับพะยูนและหากพบเห็นสัตว์ทะเลหายากเกยตื้น หรือคาดว่ามีอาการเจ็บป่วย มีเหตุฉุกเฉินให้รีบแจ้งกรม ทช. หรือสายด่วน 1362 หรือแจ้งเจ้าหน้าที่ในท้องถิ่นเพื่อประสานหน่วยงานมาที่กรม ทช. ในแต่ละพื้นที่ต่อไป อธิบดี ปิ่นสักก์ กล่าว