ลุงตู่ ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนประชาชน อ.วังทอง พร้อมเร่งหาแนวทางการช่วยเหลือพื้นที่น้ำท่วม

วันที่ 4 ก.ย. 62 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนประชาชนที่ประสบปัญหาน้ำท่วม ในเขตจังหวัดพิษณุโลกและสุโขทัย พร้อมเป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัย การช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดภาคเหนือ 17 จังหวัด ณ ห้องสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก

ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า จากอิทธิพลของพายุโชนร้อน “โพดุล” ที่เคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 62 ถึงวันที่ 1 กันยายน 2562 ทำให้เกิดฝนตกชุกในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งส่งผลในด้านดีช่วยบรรเทาปัญหาภัยแล้ง ทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน อำเภอวัดโบสถ์ ซึ่งเป็นแหล่งเก็บกักน้ำขนาดใหญ่ของจังหวัด และแหล่งน้ำธรรมชาติ มีปริมาณน้ำเก็บกักเพิ่มขึ้น สามารถเก็บกักน้ำไว้สำหรับเป็นน้ำต้นทุนในช่วงฤดูแล้งปี 2563 แต่ในขณะเดียวกันได้ส่งผลกระทบให้เกิดน้ำท่วม ในลุ่มน้ำสาขาของแม่น้ำน่าน ได้แก่ ลุ่มน้ำภาค(อำเภอนครไทย), ลุ่มน้ำคลองชมพู(อำเภอเนินมะปราง) ลุ่มน้ำวังทอง(อำเภอวังทอง, อำเภอ-บางกระทุ่ม)  และ ลุ่มน้ำยม(อำเภอบางระกำ) ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่นอกเขตชลประทาน ที่ยังขาดเครื่องมือในการบริหารจัดการน้ำและเก็บกักน้ำในพื้นที่ต้นน้ำ

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอวังทอง ปัจจุบันมีพื้นที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมประมาณ 28,816 ไร่ ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่การเกษตร นอกเขตชลประทาน ระดับน้ำที่เอ่อล้นตลิ่งแม่น้ำวังทอง ขณะนี้มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง หากไม่มีฝนตกชุกลงมาเพิ่มเติม สถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 1-2 วันนี้ ส่วนแนวทางในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในระยะยาวของลุ่มน้ำวังทอง นั้น กรมชลประทาน มีแผนที่จะดำเนินการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำ 2 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำห้วยระเบย และอ่างเก็บน้ำห้วยแยง ต.บ้านแยง อ.นครไทย ความจุอ่างฯ ละ 40 ล้าน ลบ.ม. เพื่อเป็นแหล่งเก็บกักน้ำ และบรรเทาปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ อ.วังทอง, อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก และ อ.เมือง จ.พิจิตร

ด้าน ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของสถานการณ์น้ำในเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน นั้น ปัจจุบันมีปริมาณน้ำเก็บกักประมาณ 276 ล้านลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.) หรือคิดเป็นร้อยละ 29 ของความจุอ่าง มีปริมาณน้ำใช้การประมาณ 234 ล้าน ลบ.ม. มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างฯประมาณ 22.07 ล้าน ลบ.ม. ส่วนสถานการณ์โดยรวมในแม่น้ำสายหลัก ที่แม่น้ำน่าน และแม่น้ำยม รวมถึงลุ่มน้ำสาขาในเขตจังหวัดพิษณุโลก ตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เริ่มมีปริมาณฝนตกชุกในพื้นที่ ส่งผลให้น้ำท่ามีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยที่จังหวัดพิษณุโลก มีปริมาณฝนสะสมค่าเฉลี่ยทั้งจังหวัด ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-2562 ถึงวันที่ 31 ส.ค. 2562  ประมาณ 626.50 มิลลิเมตร

ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้เตรียมเครื่องมือ เครื่องจักร และเจ้าหน้าที่ ไว้พร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาน้ำท่วม จึงขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์น้ำและสภาพอากาศในพื้นที่ตนเองอย่างใกล้ชิด และรับฟังข่าวสารจากทางหน่วยงานราชการเท่านั้น หากต้องการความช่วยเหลือสามารถร้องขอไปยังสำนักงานชลประทานหรือโครงการชลประทานในพื้นที่ หรือโทร1460 กรมชลประทานพร้อมให้การช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง

******************************

 

ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ(SWOC) กรมชลประทาน

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

4 กันยายน 2652