เกษตรฯ บุกจีน เร่งเครื่องขึ้นทะเบียนสวน โรงคัดบรรจุไทย

กรมวิชาการเกษตร รุดเจรจาจีนบรรลุข้อตกลงร่วมกัน เหยียบคันเร่งขึ้นทะเบียนสวน และโรงคัดบรรจุไทย ก่อนกระทบส่งออกลำไย จี้สวนและโรงคัดบรรจุไทย โดยเฉพาะลำไยขึ้นทะเบียนให้แล้วเสร็จภายใน กันยายน นี้

นางสาวเสริมสุข สลักเพ็ชร์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า กรมวิชาการเกษตร พร้อมด้วยสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ ได้เดินทางเยือนกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อหารือร่วมกับผู้แทนสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชนจีน (GACC) ในการแก้ไขปัญหาการขึ้นทะเบียนสวนและโรงคัดบรรจุผลไม้ที่ส่งออกจากไทยไปประเทศจีนล่าช้า ทำให้ในปัจจุบันยังคงมีสวนผลไม้และโรงคัดบรรจุที่ยื่นขอขึ้นทะเบียนแล้วแต่ไม่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากจีน จึงไม่สามารถส่งออกไปยังจีนได้ โดยอธิบดีกรมวิชาการเกษตรได้บรรลุข้อตกลงในการหารือกับ GACC และฝ่ายจีนได้ขึ้นทะเบียนเพิ่มเติมให้แก่ไทยทันที

จากการที่จีนออกระเบียบเพื่อกำหนดให้ผลไม้เมืองร้อน 5 ชนิด ได้แก่ มะม่วง ทุเรียน ลำไย ลิ้นจี่ มังคุด ต้องมาจากสวนและโรงคัดบรรจุที่ได้รับการขึ้นทะเบียนโดยรัฐบาลจีน เพื่อการตรวจสอบย้อนกลับในกรณีที่สินค้าเกษตรมีปัญหา โดยมาตรการดังกล่าว ได้บังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งที่ผ่านมากรมวิชาการเกษตรได้เร่งขึ้นทะเบียนสวนและโรงคัดบรรจุผลไม้ เพื่อรวบรวมและจัดส่งให้กระทรวงศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประกาศขึ้นทะเบียน  แต่พบปัญหาการขึ้นทะเบียนของฝ่ายจีนล่าช้า ส่งผลกระทบต่อการส่งออกผลไม้โดยเฉพาะลำไยที่กำลังจะออกสู่ตลาด

อธิบดีกรมวิชาการเกษตรเปิดเผยผลการหารือ พบว่า จีนมีข้อกังวลเกี่ยวกับจำนวนสวนและโรงคัดบรรจุของไทยที่มีเป็นจำนวนมาก รวมทั้งได้สอบถามถึงวิธีการตรวจรับรองและขึ้นทะเบียนของไทย เนื่องจากจีนมีวิธีการตรวจรับรองและเกณฑ์ที่แตกต่างจากไทยในการขึ้นทะเบียนสวนผลไม้เพื่อส่งออกเฉพาะสวนที่มีพื้นที่มากกว่า 40 ไร่ขึ้นไปเท่านั้น โดยอธิบดีกรมวิชาการเกษตรได้เน้นย้ำว่าไทยต้องการสร้างโอกาสให้เกษตรกรรายย่อยสามารถส่งผลผลิตไปยังต่างประเทศได้ จึงไม่ได้จำกัดขนาดพื้นที่สวนที่จะขอขึ้นทะเบียน โดยได้อธิบายรูปแบบการทำสวนผลไม้ของไทยซึ่งส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรรายย่อย มีที่ดินถือครองไม่มาก รวมทั้งแจ้งหลักเกณฑ์การตรวจประเมินสวนและโรงคัดบรรจุของไทย ซึ่งดำเนินการตามหลัก GAP และ GMP ทั้งนี้หลังจากการหารือ ฝ่ายจีนมีความเข้าใจและได้ตกลงขึ้นทะเบียนให้แก่ไทยโดยมีผลทันทีตั้งแต่วันที่ 3 กันยายน 2562

ผู้ประกอบการที่ขอขึ้นทะเบียนแล้วสามารถตรวจสอบรายชื่อได้จากเว็บไซด์ของกองพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าพืช กรมวิชาการเกษตร ทั้งนี้ จีนขอให้กรมวิชาการเกษตรเร่งรัดการขึ้นทะเบียนสวนและโรงคัดบรรจุ โดยเฉพาะลำไยที่ประสงค์ส่งสินค้าไปจีนในปีนี้ เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2562