สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 17 ส.ค. 67 เวลา 7.00 น.

1.ปริมาณฝนสะสม 24 ชม. สูงสุด ได้แก่ ภาคเหนือ : จ.เชียงราย (149 มม.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จ.บึงกาฬ (171 มม.) ภาคกลาง : จ.กรุงเทพมหานคร (49 มม.) ภาคตะวันออก : จ.ระยอง (59 มม.) ภาคตะวันตก : จ.เพชรบุรี (62 มม.) ภาคใต้ : จ.สุราษฎร์ธานี (104 มม.)

สภาพอากาศวันนี้ : ร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ในขณะที่มีแนวพัดสอบของลมตะวันออกเฉียงใต้และลมตะวันตกเฉียงใต้ในระดับบนปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง

คาดการณ์ : ช่วงวันที่ 18 – 22 ส.ค. 67 ร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านภาคเหนือตอนบน และประเทศลาว เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคตะวันออกมีฝนตกหนักบางแห่ง

2. สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในภาพรวม : ปริมาณน้ำรวม 58% ของความจุเก็บกัก (46,585 ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำใช้การ 39% (22,423 ล้าน ลบ.ม.)

3. ประกาศสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ :
1. ประกาศสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ฉบับที่ 10/2567 เรื่อง เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในช่วงวันที่ 16 – 22 ส.ค. 67 พบว่ามีพื้นที่เสี่ยงต้องเฝ้าระวัง ดังนี้
1. พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่มและบริเวณชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำเนื่องจากระบายไม่ทันบริเวณ
– ภาคเหนือ จ.เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
– ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.เลย หนองคาย หนองบัวลำภูบึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม
– ภาคตะวันออก จ.นครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด
2. เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็กที่มีปริมาณน้ำ มากกว่าร้อยละ 80 บริเวณ จ.เชียงใหม่ ลำปาง พะเยา น่าน พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ อุบลราชธานี นครนายก ปราจีนบุรี และตราด
3. เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่งและในพื้นที่ลุ่มต่ำ บริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาของลำน้ำงาว ลำน้ำปาย แม่น้ำลาว แม่น้ำน่าน แม่น้ำยม แม่น้ำแควน้อย แม่น้ำป่าสัก ลำน้ำก่ำ และแม่น้ำตราด

2. ประกาศสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง ช่วงวันที่ 17 –.24 ส.ค. 67 เนื่องจากอิทธิพลของน้ำทะเลหนุนสูง และคาดว่าจะมีฝนตกเพิ่มขึ้นในระยะนี้ ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำแม่กลอง แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำบางปะกง เสี่ยงน้ำท่วมบริเวณชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราว บริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร (แนวฟันหลอ) ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม สมุทรสาคร นครปฐม นนทบุรี กรุงเทพมหานคร และสมุทรปราการ

4. การประชาสัมพันธ์ : เมื่อวันที่ 15 – 16 ส.ค. 67 นายไวฑิต โอชวิช ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์น้ำ สทนช. เป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการ “ชี้แจงแนวทางกำกับการดำเนินงานการส่งเสริมการประหยัดน้ำ และการใช้งานระบบการจัดเก็บข้อมูลหน่วยงานประหยัดการใช้น้ำภาครัฐ” โดย ครม. เห็นชอบแนวทางการประหยัดน้ำในหน่วยงานภาครัฐ โดยให้หน่วยงานภาครัฐลดการใช้น้ำอย่างน้อยร้อยละ 10 และให้มีการรายงานผลให้ ครม. ทราบ เพื่อเป็นการสนับสนุนและขับเคลื่อนให้เกิดการจัดทำแผนปฏิบัติการประหยัดน้ำของหน่วยงานภาครัฐ รวมถึงการติดตามประเมินผลและรับทราบความก้าวหน้าและทิศทางของการดำเนินงานประหยัดน้ำ ซึ่งจะมีระบบจัดเก็บข้อมูลหน่วยประหยัดน้ำการใช้น้ำภาครัฐที่พัฒนาขึ้น เป็นเครื่องมือสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถการประหยัดน้ำของประเทศ รวมทั้งได้ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย ที่สามารถช่วยวางแนวทางการปฏิบัติเพื่อการประหยัดน้ำ เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำและความมั่นคงน้ำของประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรม หน่วยงานและประชาชนเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ล่วงหน้าด้วย ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์คาดการณ์ พบว่าในช่วงปลายปีแนวโน้มสภาวะลานีญาจะลดลง จึงจะหารือร่วมกับหน่วยงานประเมินสถานการณ์และวางแผนบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

5. สถานการณ์น้ำท่วม : วันที่ 16 ส.ค. 67 ในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ จ.เชียงราย (อ.แม่สาย เมืองฯ เวียงชัย เทิง แม่จัน แม่ลาว แม่ฟ้าหลวง เชียงแสน และเชียงของ) จ.พะเยา (อ.จุน และเชียงคำ) และ จ.น่าน (อ.สองแคว)