ดร.สาธิต เปิดโรงพยาบาลบ้านตาขุน พัฒนาศักยภาพบริการ รองรับนักท่องเที่ยวเขื่อนเชี่ยวหลาน

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดโรงพยาบาลบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี อย่างเป็นทางการ พัฒนาศักยภาพให้ได้มาตรฐานสากลสร้างความเชื่อมั่น นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติปีละกว่า 7 แสนคน เพิ่มการเข้าถึงบริการประชาชนในพื้นที่ 

วันที่ 24 สิงหาคม 2562 ที่ อ.บ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดโรงพยาบาลบ้านตาขุนอย่างเป็นทางการ รับมอบรถพยาบาล 1 คัน เครื่องอัลตราซาวน์ 1 เครื่อง เครื่องปั๊มหัวใจ 1 เครื่อง และรับมอบเงินบริจาค 1.7 ล้านบาทเพื่อจัดซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์  พร้อมมอบเกียรติบัตรแก่ผู้ให้การสนับสนุนโรงพยาบาล

ดร.สาธิตให้สัมภาษณ์ว่า โรงพยาบาลชุมชนเป็นหน่วยบริการของกระทรวงสาธารณสุข ที่ดูแลให้บริการสุขภาพแก่ประชาชนอย่างใกล้ชิด การพัฒนาไม่สามารถใช้แต่กลไกของราชการเพียงฝ่ายเดียว แต่จะต้องได้รับความร่วมมือจากชุมชน เพื่อให้ดำเนินการได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ซึ่งโรงพยาบาลบ้านตาขุนนับเป็นตัวอย่างของการพัฒนาภายใต้แนวคิด ‘ประชารัฐ’ ได้รับการดูแลจากชุมชนที่เข้มแข็ง เป็นที่พึ่งให้กับชาวบ้านตาขุน เป็นสัญลักษณ์ของการร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคประชาชน เพื่อพัฒนายกระดับจากโรงพยาบาลชุมชนขนาด 10 เตียง เป็นขนาด 30 เตียง รองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติปีละกว่า 7 แสนคน มาท่องเที่ยวเขื่อนรัชชประภา หรือ “ทะเลสาบเชี่ยวหลาน” ที่มีชื่อเสียงในระดับโลก และแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติอื่น ๆ เช่น น้ำตกโตนกลอย ถ้ำน้ำทะลุ อุทยานแห่งชาติเขาสก และภูเขารูปหัวใจ รวมทั้งดูแลประชาชนในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียงอีกกว่า 20,000 คน

ทั้งนี้ โรงพยาบาลบ้านตาขุน เดิมเป็นสาขาของโรงพยาบาลพนม เปิดบริการเมื่อปี พ.ศ.2531 และย้ายมาก่อสร้างอาคารหลังใหม่ ณ สถานที่ปัจจุบัน เนื้อที่ประมาณ 30 ไร่ ยกระดับเป็นโรงพยาบาลชุมชน ขนาด 30 เตียง เมื่อปี พ.ศ. 2552 ให้บริการระดับทุติยภูมิ ได้พัฒนาศักยภาพด้านต่างๆเช่น อาหารปลอดภัย การจัดการสิ่งแวดล้อมและการแพทย์ฉุกเฉิน  และการเตรียมความพร้อม รวมทั้งสร้างเครือข่ายในการบริการแก่นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ ปัจจุบันมีบุคลากร 148 คน โดยมีแพทย์ 4 คน ทันตแพทย์ 2 คน พยาบาล 31 คน และบุคลากรอื่นๆ 117 คน ให้บริการผู้ป่วยนอก ผู้ป่วยใน ห้องผ่าตัด ห้องฉุกเฉิน ผู้ป่วยนอกเฉลี่ยวันละ 214 ครั้ง อัตราครองเตียงร้อยละ 80 นอกจากนี้ ผู้มีจิตศรัทธาได้บริจาคสมทบทุนสร้างห้องพิเศษ จำนวน 13 ห้อง บริจาคเงินจัดหาครุภัณฑ์ทางการแพทย์รวมเป็นเงินมากกว่าสิบล้านบาท ทำให้มีความพร้อมในการบริการประชาชนมากขึ้น