รมว.แรงงาน “พิพัฒน์”ถกความร่วมมือทูตสปป.ลาว ดัน MOU สนับสนุนแรงงานขึ้นทะเบียนถูกกฎหมาย

วันที่ 18 เมษายน 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้การต้อนรับ นายคำพัน อั่นลาวัน (Mr.Khamphan Anlavan) เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็ม แห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวประจำประเทศไทย และคณะ ในโอกาสเข้าพบเพื่อเยี่ยมคารวะ แสดงความยินดีกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง และปรึกษาหารือข้อราชการที่เกี่ยวข้องกับประเด็นความร่วมมือด้านแรงงาน โดยมี นายสิรภพ ดวงสอดศรี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายภุชงค์ วรศรี ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงแรงงาน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม นางสาวบุปผา เรืองสุด อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน นายสมาสภ์ ปัทมะสุคนธ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน เข้าร่วม ณ ห้องจัตุมงคล ชั้น 6 อาคารกระทรวงแรงงาน

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ผมพร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงแรงงาน ยินดีต้อนรับท่านเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็ม แห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวประจำประเทศไทย และคณะเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาเยี่ยมเยียนกระทรวงแรงงานในวันนี้ และขอขอบคุณรัฐบาลลาวที่จัดส่งแรงงานลาวเข้ามาทำงานในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันมีแรงงานสัญชาติลาวที่ได้รับอนุญาตให้ทำงานในประเทศไทย ประมาณ 261,339 คน และที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาทำงานตาม MOU จำนวน 165,289 คน ไทยและลาวมีความสัมพันธ์ฉันท์มิตรที่ดีต่อกันมาอย่างยาวนาน

นายพิพัฒน์ กล่าวถึงความคืบหน้าความร่วมมือด้านแรงงานภายใต้ MOU ว่า ทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อจัดทำบันทึก ข้อตกลงฉบับใหม่ ซึ่งกระทรวงแรงงานได้มีการหารือเป็นการภายในแล้ว เห็นว่าควรปรับภาษาไทยและภาษาลาวให้เป็นภาษาอังกฤษฉบับเดียว ฝ่ายไทยอยู่ระหว่างจัดทำร่างบันทึกความเข้าใจฯ ฉบับภาษาอังกฤษ เพื่อเสนอฝ่ายลาวพิจารณา กระทรวงแรงงานมีความยินดีที่จะรับแรงงานลาวเข้ามาทำงานในประเทศไทย เพราะแรงงานชาวลาว เป็นแรงงานที่อดทน ขยัน และซื่อสัตย์ คล้ายกับแรงงานไทย นอกจากนี้ ยังมีส่วนที่คล้ายกันในอีกหลายด้าน ทั้งภาษา ศาสนา วัฒนธรรม แรงงานลาวมีบทบาทอย่างยิ่ง ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย เพราะมีจำนวนมาก ซึ่งจะเห็นได้ว่าทั้งสองฝ่ายมีความแน่นแฟ้นต่อกัน และกระทรวงแรงงานพร้อมทำงานเพื่อขับเคลื่อนความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันต่อไป

 

“ผมขอขอบคุณท่านทูต และฝ่ายลาว ที่ให้ความสำคัญกับประเทศไทย และจัดส่งแรงงานเข้ามาทำงาน เพื่อช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตของแรงงานให้ดียิ่งขึ้น อะไรที่เราทั้งสองฝ่ายจะหารือกันได้กระทรวงแรงงานยินดีอย่างยิ่งที่จะเป็นตัวกลางประสานดำเนินการให้” นายพิพัฒน์ กล่าว

ด้าน นายคำพัน อั่นลาวัน (Mr.Khamphan Anlavan) เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็ม แห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวประจำประเทศไทย กล่าวว่า ผมขอขอบคุณท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเป็นอย่างยิ่งที่เปิดโอกาสให้เข้าพบและหารือความร่วมมือด้านแรงงานในวันนี้ ซึ่งผมต้องขอบคุณที่ทางการไทยกระทรวงแรงงานและทุกหน่วยงานที่ช่วดูแลแรงงานลาวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยเป็นอย่างดี ซึ่งทางการลาวเองพร้อมสนับสนุนให้แรงงานที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยได้ขึ้นทะเบียนเป็นแรงงานที่ถูกต้องตามกฎหมาย และสนับสนุนความร่วมมือในการจัดทำบันทึกข้อตกลงฉบับใหม่ กับกระทรวงแรงงาน ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวจะเกิดประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจกับทั้งสองฝ่าย ที่สำคัญจะกระชับความสัมพันธ์ฉันท์มิตรให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นต่อไป