หมอแนะใช้สมุนไพรว่านหางจระเข้และบัวบก ปฐมพยาบาลแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวกเบื้องต้นก่อนส่งโรงพยาบาล

หมอแนะนำประชาชนใช้สมุนไพรว่านหางจระเข้และครีมบัวบกปฐมพยาบาลแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวกได้ กรณีที่แผลใหญ่ลึกต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลทันที อย่าปล่อยทิ้งไว้

นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ในฐานะโฆษกกรม กล่าวว่า วิธีการรักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย คือ หากเกิดแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ในระดับที่ความร้อนยังทำลายไม่ถึงชั้นผิวหนังแท้ ให้รีบประคบด้วยน้ำเย็นหรือน้ำแข็งเพื่อดับพิษร้อนในขั้นแรก จากนั้นนำใบว่านหางจระเข้ปอกเปลือกให้เหลือแค่วุ้นใส ๆ แล้วล้างยางสีเหลืองด้วยน้ำเปล่าให้สะอาด ฝานเป็นแผ่นบาง ๆ นำไปวางบนแผลให้ทั่วบริเวณแผลเพื่อลดอาการปวดแสบปวดร้อน พันด้วยผ้าพันแผล เปลี่ยนตัวยาทุกครั้งที่มีอาการร้อนขึ้นมาใหม่ หรืออาจจะนำวุ้นว่านหางจระเข้ไปแช่เย็นก่อนนำมาวางบนแผลก็ได้ จากการศึกษาวิจัยพบว่า วุ้นใสของใบว่านหางจระเข้สามารถต้านเชื้อแบคทีเรีย ลดการอักเสบ รักษาแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวกได้ผลจริง ปัจจุบันมีการนำว่านหางจระเข้ มาต่อยอดองค์ความรู้ พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์กลุ่มเวชสำอาง หรือกลุ่มยารักษาโรค และว่านหางจระเข้ เป็นยาสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติ อยู่ในรูปแบบเจลและโลชั่น มีสรรพคุณสมานแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ผู้ป่วยที่แพทย์สั่งจ่ายยาว่านหางจระเข้ สามารถใช้สิทธิ์ตามสิทธิการรักษาพยาบาลได้ตามโรงพยาบาลที่ตนเองมีภูมิลำเนาอยู่

หลังจากการใช้เจลว่านหางจระเข้จะช่วยรักษาแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวกในเบื้องต้นแล้วในการรักษาแผล อาจใช้ครีมบัวบกที่เป็นยาในบัญชียาหลักแห่งชาติ ที่เป็นอีกชนิดหนึ่งช่วยเรื่องการหายของแผลได้ ที่สำคัญการใช้ว่านหางจระเข้หรือครีมบัวบกให้ดูระดับความรุนแรงของแผล หากเป็นแผลตื้นชั้นผิวหนัง ไม่มีแผลเปิด ผิวหนังแดง ปวดแสบปวดร้อน ให้ใช้ได้จนกว่าจะหาย หากระดับความรุนแรงมาก มีแผลใหญ่ใช้เป็น การปฐมพยาบาลเบื้องต้นระหว่างนำส่งโรงพยาบาลเท่านั้น การรักษาต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ต่อไป ส่วนการป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ ควรจัดวางอุปกรณ์ที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุจากไฟไหม้น้ำร้อนลวกให้พ้นมือเด็ก เพียงเท่านี้ก็สามารถห่างไกลจากอันตรายต่าง ๆ ที่จะทำให้เกิดโรคได้

หากท่านใดที่สนใจข้อมูลด้านสมุนไพร และการดูแลสุขภาพด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก โทร 0 2149 5678 หรือเว็บไซต์ www.dtam.moph.go.th