“รมว.ปุ๋ง” ย้ำห้ามพลาด “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย”

“สุดาวรรณ”เผยนายกฯ เศรษฐา เปิดงานเทศการเที่ยวเมืองไทย 17.00น.วันนี้ (28 มี.ค.) ชวนประชาชน อย่าพลาดไปเที่ยวและสัมผัสบรรยากาศทั่วประเทศไทย ที่ ททท.เนรมิตรพื้นที่ชั้น G ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์จัดเต็มภายในงานเดียว ระหว่างวันที่ 28 มี.ค.- 1 เม.ย.นี้

วันที่ 28 มีนาคม 2567 นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผย ว่า วันนี้ (28 มี.ค.) เวลา 17.00 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง การคลัง จะเป็นประธานในพิธีเปิดงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ครั้งที่ 42 ประจำปี 2567” ณ ฮอลล์ 1-4 ชั้น G ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์  โดยงานนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 มีนาคม – 1 เมษายน 2567 โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้เนรมิตพื้นที่จัดงานโดยยกทัพพลัง Soft Power และวัฒนธรรมย่อย (Sub-Culture) มาเป็นจุดขายสะท้อนเอกลักษณ์ท้องถิ่นและแหล่งท่องเที่ยวของแต่ละภูมิภาค ควบคู่กับนำเสนอรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ใหม่ๆ ทั้งในเมืองท่องเที่ยวหลักและเมืองรอง โดยจัดเอกลักษณ์ของ 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ ทั้งด้านประเพณี วัฒนธรรม วิถีชีวิต ภูมิปัญญาและแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ภายใต้ 9 โซนหลัก

“ทุกครั้งที่มีเทศกาลเที่ยวเมืองไทย จะเป็นโอกาสให้ประชาชนที่เข้าร่วมงานได้สัมผัสกับบรรยากาศความสุข ความสนุกสนานจากการเดินทางท่องเที่ยวทั่วทั้งประเทศไทยภายในงานเดียว จะช่วยเพิ่มการตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่จริง ในปีนี้คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานตลอด 5 วันจัดงานกว่า 150,000 คน สร้างการรับรู้ 20 ล้านคนครั้ง สร้างรายได้จากการจ้างงาน 10 ล้านบาท และสร้างรายได้ต่อเนื่องจากการเดินทางท่องเที่ยว 1,400-1,500 ล้านบาท”

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ขอเชิญชวนประชาชนเข้าร่วมในงานนี้ โดยสามารถเดินทางมาโดยรถไฟฟ้า MRT หรือโดยรถยนต์ส่วนตัว ซึ่งมีบริการพื้นที่จอดรถกว่า 3,000 คัน ไม่อยากให้พลาดโอกาสครั้งนี้ เพราะภายใต้ 9 โซนหลักมีความน่าสนใจอย่างมาก ประกอบด้วย โซนที่ 1 Amazing Thailand พบประสบการณ์ท่องเที่ยวเหนือระดับผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่ LED Box จอภาพขนาดใหญ่ที่มาพร้อมมุมมองภาพรอบตัวและAmazing Thailand VR Dome ที่จะพาออกผจญภัยท่องเที่ยวเสมือนจริงในสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ

โซนที่ 2 หมู่บ้านภาคตะวันออก“Colorful Burapha” นำเสนอแลนด์มาร์ก ประภาคารบางเบ้า เกาะช้าง จ.ตราด และหัวแหวนพลอย จ.จันทบุรี ตอกย้ำความอุดมสมบูรณ์ของภูมิภาคผ่าน วัฒนธรรมอาหาร ยกทัพอาหารทะเลและอาหารถิ่นมาพร้อมเสิร์ฟ กว่า 50 ร้าน

โซนที่ 3 หมู่บ้านภาคกลาง โดดเด่นด้วยแลนด์มาร์ก หมู่เรือนไทยภาคกลาง ประดิษฐานพระแก้วมรกตเพื่อให้ผู้เข้าชมร่วมสักการะ พร้อมรื่นเริงไปกับธีม “งานวัด” มีกิจกรรมชิงช้าสวรรค์ ม้าหมุน และตู้คีบมนุษย์ พร้อมสอดแทรกตกแต่งบรรยากาศ “สงกรานต์มนต์รักลูกทุ่ง” ภายในหมู่บ้านจัดไฮไลต์ จำลองตลาดบก-ตลาดน้ำ  การเปิดสังเวียนมวยลพบุรี

โซนที่ 4 หมู่บ้านภาคเหนือ ชวนมาแอ่วเมืองล้านนาด้วยคอนเซปต์ “Faithival #เล่าเรื่องป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง” ผสมผสานความร่วมสมัย พาสัมผัสบรรยากาศ “งานวัดภาคเหนือ” เช็กอินแลนด์มาร์ก องค์พระธาตุลำปางหลวง จ.ลำปาง พร้อมทำบุญสรงน้ำพระแก้วมรกตลำปาง ปักตุงมงคล พร้อมกับมีอาหารพื้นเมืองเหนือลำแต้ๆ เช่น ข้าวซอยใบเหมี้ยง จ.ลำปาง ข้าวเปิ๊บ บ้านนาต้นจั่น จ.สุโขทัย

โซนที่ 5 หมู่บ้านภาคใต้ ต้อนรับหลบเรินอย่างอบอุ่นกับคอนเซปต์ “Southern Village หมู่บ้านภาคใต้ #หลบใต้บ้านเรา” เสิร์ฟอัตลักษณ์พหุวัฒนธรรมตั้งแต่ก้าวผ่านซุ้มประตูสีสันร่วมสมัยลายผ้าปาเต๊ะ ผ้าบาติก และลูกปัดโนรา เช็กอินแลนด์มาร์กสำคัญ หอนาฬิกาเมืองเบตง จ.ยะลา  และชิมอาหารปักษ์ใต้แท้ๆ

โซนที่ 6 หมู่บ้านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หลงรักถิ่นอีสานไปกับแนวคิด “Isan Festi “เว้า” #เล่าเรื่องเมืองอีสาน” บอกเล่าความเป็นอีสานในบรรยากาศสีสันสดใส ยืนหนึ่งแลนด์มาร์กบั้งไฟตะไลล้าน จากบ้านกุดหว้า จ.กาฬสินธุ์ และจุดถ่ายภาพ  ISAN SoftPower ได้แก่ หน้ากากผีตาโขน มวยโบราณ และซุ้มประตูประเพณีแห่ต้นดอกไม้ จ.เลย

โซนที่ 7 พันธมิตรท่องเที่ยวไทย รวบรวมดีลสุดพิเศษจากผู้ประกอบการท่องเที่ยว  และโซนที่ 8 เป็นการจัดเต็มบรรยากาศแห่งความสนุกสนาน มีการแสดงดนตรีศิลปินที่มีชื่อเสียงทุกวัน ส่วนโซนที่ 9 Sustainable Tourism Goals ตอกย้ำหมุดหมายของการขับเคลื่อนท่องเที่ยวไทยสู่ความยั่งยืน (Sustainable Tourism) ชวนนักท่องเที่ยวสัมผัสถึงประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ (Responsible Tourism)