รฟม. – สทร. ลงนาม MOU การส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง เพื่อยกระดับขีดความสามารถทางเทคโนโลยีและสร้างอุตสาหกรรมระดับประเทศ

วันที่ 15 มีนาคม 2567) นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และ ดร.กานต์รวี ทองพูล รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (องค์การมหาชน) (สทร.) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง เพื่อยกระดับขีดความสามารถทางเทคโนโลยีและสร้างอุตสาหกรรมระดับประเทศ ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 9 อาคาร 1 รฟม.

นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการ รฟม. กล่าวว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงฯ ดังกล่าว เป็นความร่วมมือกันระหว่าง รฟม.ในฐานะหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาและขยายโครงข่ายระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนที่มีประสิทธิภาพของประเทศ และ สทร. ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่สำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาเทคโนโลยีระบบรางในอนาคต โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนา ขับเคลื่อนและสนับสนุนการดำเนินงานเกี่ยวกับระบบรางที่เป็นประโยชน์และสอดคล้องกับทิศทางการยกระดับศักยภาพอุตสาหกรรมและการขนส่งทางรางของประเทศอย่างมีคุณภาพ ซึ่งในปีงบประมาณ 2566 – 2570 รฟม.ได้กำหนดภารกิจในการพัฒนาองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญด้านระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนเพื่อต่อยอดเป็นนวัตกรรมระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนของประเทศ ที่สามารถนำมาใช้สนับสนุนการดำเนินงานได้จริง ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่ม และก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนผู้ใช้บริการ ดังนั้นความร่วมมือดังกล่าวจะเป็นแนวทางในการขับเคลื่อนการดำเนินงานของ รฟม. ให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ตลอดจนเป็นการผลักดันให้ รฟม. ก้าวไปสู่องค์กรแห่งนวัตกรรมที่สามารถช่วยยกระดับเมืองและสร้างอนาคตที่ยั่งยืนต่อไป

ดร.กานต์รวี ทองพูล รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการ สทร. กล่าวว่า สทร. มีความยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับ รฟม. ในการสนับสนุนการดำเนินงานที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับระบบราง ทั้งด้านการวิจัยการพัฒนาเทคโนโลยี การสร้างและต่อยอดนวัตกรรม การพัฒนามาตรฐาน การทดสอบระบบและผลิตภัณฑ์การแลกเปลี่ยนและถ่ายทอดองค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญเพื่อสนับสนุนการพัฒนาระบบรางไปสู่การใช้ประโยชน์ทั้งในและต่างประเทศ โดย สทร.เชื่อว่าการพัฒนาระบบการขนส่งทางรางให้มีประสิทธิภาพ จะส่งผลให้ต้นทุนการเดินทางต่ำลง มีความสะดวก รวดเร็วและปลอดภัย อันจะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนผู้ใช้บริการตลอดจนเป็นปัจจัยที่สามารถส่งเสริมการดึงดูดและกระตุ้นการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ

ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาการดำเนินงานภายใต้บันทึกข้อตกลงฯ ดังกล่าว ทั้ง 2 หน่วยงานจะให้ความร่วมมือและทำหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อพัฒนาระบบการขนส่งทางรางให้มีประสิทธิภาพและยกระดับ ขีดความสามารถทางเทคโนโลยีและสร้างอุตสาหกรรมระดับประเทศต่อไป