วันที่ 12 มีนาคม 2567 เวลา 11.00 น. นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ เรือเอก สาโรจน์ คมคาย ที่ปรึกษากฎหมาย รักษาราชการแทนรองปลัดกระทรวงแรงงานลงพื้นที่เยี่ยมชมการฝึกอบรมการทำน้ำพริกตาแดงและพบปะให้กำลังใจผู้เข้ารับการฝึกอบรม ภายใต้โครงการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนด้านอาชีพในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ของสำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน โดยมี นายกฤตภัทร ครุฑกุล ผู้อำนวยการสำนักตรวจและประเมินผล นางสาววารุณี ลังกาพินธ์ ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และแผนงาน ร่วมเป็นเกียรติ นางรินทิรา เขมสิริวัฒน์ อาสาสมัครแรงงานแขวงท่าพระ และผู้เข้ารับการฝึกอบรม ร่วมให้การต้อนรับ ณ ชุมชนซอยสมบุญพัฒนา ซอยจรัญสนิทวงศ์ 12 แขวงท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร
เรือเอกสาโรจน์ กล่าวว่า กระทรวงแรงงานมีการดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนด้านอาชีพ เพื่อการมุ่งเน้นส่งเสริมให้ประชาชนผู้ด้อยโอกาส ว่างงาน ขาดรายได้ ผู้ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ หรือผู้ได้รับผลกระทบจากภัยวิกฤตเศรษฐกิจ ให้ได้รับความช่วยเหลือ ฟื้นฟู โดยการส่งเสริมให้มีงานทำ มีอาชีพ มีรายได้ ที่เข้าถึงประชาชนในพื้นที่ ชุมชน ทุกจังหวัดทั่วประเทศ โดยกำหนดเป็น 2 กิจกรรม คือ กิจกรรมจ้างงานเร่งด่วน และกิจกรรมพัฒนาทักษะฝีมือแรงงาน
เรือเอกสาโรจน์ กล่าวต่อว่า กระทรวงแรงาน ได้รับแจ้งความต้องการของประชาชนในพื้นที่ เพื่อการฝึกทักษะฝีมือในอาชีพต่าง ๆ ซึ่งมีการดำเนินการโดยอาสาสมัครแรงงานกรุงเทพมหานคร จึงได้สนับสนุนงบประมาณ ภายใต้โครงการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนด้านอาชีพกระทรวงแรงงาน เพื่อการจัดฝึกอบรมอาชีพตามที่มีการแจ้งความประสงค์ รวมทั้งการสนับสนุนงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนด้านอาชีพในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ซึ่งในวันนี้ท่านปลัดกระทรวงแรงงาน ได้มอบหมายให้ผมพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองยุทธศาสตร์และแผนงาน และสำนักตรวจและประเมินผล ได้ลงพื้นที่มาเยี่ยมชมการฝึกอบรมหลักสูตรทำน้ำพริกตาแดงปลากับเห็ดให้กับชาวบ้านผู้ที่อยู่ในชุมชนพื้นที่เขตบางกอกใหญ่ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ทำงานอยู่กับบ้าน หรือเป็นแม่บ้าน มีอายุระหว่าง 20 – 60 ปี จำนวน 20 คน เพื่อส่งเสริมให้ชาวบ้านได้มีการประกอบอาชีพอิสระ มีงานทำ มีรายได้ที่มั่นคง
“โครงการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนด้านอาชีพของกระทรวงแรงงาน จะช่วยให้ผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรต่างๆ ได้นำความรู้ที่ได้รับไปต่อยอดในการรวมกลุ่ม เพื่อประกอบอาชีพ ซึ่งจะทำให้ประชาชนในพื้นที่มีงานทำ รายได้ที่เพิ่มขึ้น มีคุณภาพชีวิตที่ดี รวมทั้งจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในชุมชนให้เข้มแข็งต่อไป” เรือเอกสาโรจน์ กล่าวในท้ายที่สุด