บจธ. จับคู่ตลาดกลางที่ดิน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น หนุนสินเชื่อโครงการปลูกหน่อไม้ฝรั่ง ให้เกษตรกรมีที่ดินทำกิน

บจธ. ลงพื้นที่เยี่ยมชมโครงการตลาดกลางทีดิน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ในพื้นที่จริง ประกอบการวิเคราะห์ ข้อมูลก่อนปล่อยสินเชื่อ ให้กลุ่มเกษตรกร ทำประโยชน์ในที่ดินทำเกษตรกรรม ปลูกหน่อไม้ฝรั่ง เกิดรายได้ กระจายการถือครองที่ดินยั่งยืน และใช้ที่ดินให้เกิดประโยชน์สูงสุด

นายสมชาย นุชธานี ผู้อำนวยการกองการตลาด สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) หรือ บจธ. เปิดเผยว่า คณะทำงาน บจธ. ลงพื้นที่เยี่ยมชมวิสาหกิจชุมชนปลูกพืชผักอินทรีย์ขามหนองต่อ ในอำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น เพื่อตรวจสอบประกอบการวิเคราะห์ข้อมูลการให้สินเชื่อจากสภาพในพื้นที่จริงของเกษตรกร เนื่องจากวิสาหกิจชุมชนฯ นี้ เป็นหนึ่งในลูกค้าเกษตรกรของ บจธ. ที่เกิดขึ้นจากการจับคู่ระหว่างเจ้าของที่ดิน และกลุ่มเกษตรกรผู้ประสงค์จะใช้ประโยชน์ที่ดิน ภายใต้โครงการตลาดกลางที่ดิน ซึ่งกำลังยืนเสนอโครงการทำการเกษตรปลูกหน่อไม้ฝรั่งแปลงใหญ่แบบรวมกลุ่มเกษตรกรจำนวน 5 คน ในรูปแบบการรวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชน บนเนื้อที่ 19 ไร่ โดยขอสนับสนุนสินเชื่อโครงการ 4.6 แสนบาท โดยนำเงินทุนที่ขอสนับสนุนเพื่อไปใช้เป็นค่าเช่าที่ดินจากเจ้าของที่ดิน และเป็นค่าลงทุนอุปกรณ์การเพาะปลูก เช่น ระบบท่อฉีดน้ำฝอย อุปกรณ์น้ำหยด ปุ๋ยและแกลบ เป็นต้น

ตามแผนโครงการดังกล่าว ซึ่งมี นายสมพร พิมมะสอน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ตำบลสวนม่อน อำเภอ มัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น เป็นผู้นำของกลุ่มวิสาหกิจ ได้เสนอมานั้น จะขยายการปลูกหน่อไม้ฝรั่ง เพิ่มขึ้น ซึ่งก่อนหน้ามาตรวจสอบพื้นที่จริง เกษตรกรได้เริ่มต้นปลูกหน่อไม้ฝรั่งด้วยเงินทุนที่จัดหามาเองและเงินทุนจากกองทุน หมู่บ้าน ไปล่วงหน้าแล้วประมาณ 6 เดือนในพื้นที่เดิม 8 ไร่ และจะขยายเพิ่มเป็น 19 ไร่ ในรูปแบบการตลาดนำการผลิต จึงไม่ห่วงปัญหาด้านการตลาด เนื่องจาก มีบริษัทฯ ต่างชาติ ชาวไต้หวัน มารับซื้อผลผลิตทั้งหมด ในขณะที่ปัจจุบันให้ผลผลิตไม่เพียงพอกับความต้องการ จึงต้องขยายพื้นที่ปลูกต่อเนื่อง เพื่อให้ป้อนตลาดได้ทัน

สำหรับแผนการสร้างรายได้ของกลุ่มขามหนองต่อ คาดว่าจะคืนทุนได้ภายในระยะเวลา 2 ปี เนื่องจาก สามารถได้รายได้ทุกวัน เฉลี่ยรายได้ไร่ละ 1,000 บาทต่อวัน เพราะ หน่อไม้ฝรั่งสามารถให้ หน่ออ่อนขึ้นใหม่ได้ตลอด และสามารถเก็บเกี่ยวได้ทุกวัน  เป็นหน่อไม้ฝรั่งที่ได้ผ่านมาตรฐาน GAP โดยเฉพาะถ้าเป็น หน่อฝรั่งที่เติบโตอายุ 1-5 ปี จะให้ผลผลิตที่เป็นหน่อใหญ่ในปริมาณมากขึ้น และสามารถได้ราคาที่สูง ผู้ซื้อรับ ประกันราคาที่แน่นอนให้ คือ ถ้าเป็นหน่อเกรดเอ ราคา80 บาทต่อกิโลกรัม ถ้าเป็นหน่อไม้เกรดตก ราคา 10 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่ต้นหน่อไม้ฝรั่งให้ผลยืนต้นได้นาน 5-10 ปี พื้นที่มีแหล่งน้ำที่ดีตลอดทั้งปี

เมื่อขยายโครงการเต็มพื้นที่ 19 ไร่ ยังมีแผนจะขยายต่อเนื่องต่อไปอีก และจัดทำเป็นระบบสหกรณ์ เพิ่มสมาชิกเกษตรกรให้เป็น 50 คน จากที่ปัจจุบันมีเครือข่ายเกษตรกร 20 คน ซึ่งเมื่อก่อนหน้าที่ปลูกหน่อไม้ฝรั่ง ผู้ใหญ่สมพร ปลูกพืชชนิดอื่น เช่น พริก แตงกวา ถั่ว เป็นต้น แล้วประสบปัญหาต้องใช้เงินลงทุนบ่อย เนื่องจากเป็นพืชที่มีอายุสั้น 1-2 เดือน ต้องใช้เงินลงทุนปลูกใหม่อยู่ตลอด ราคาผลผลิตที่ได้รับไม่แน่นอน การทำเกษตรกรรมของเกษตรกรเป็นลักษณะต่างคนต่างปลูก แต่ไม่ได้มีการรวมตัวเช่นปัจจุบัน

ผู้อำนวยการกองตลาด กล่าวอีกว่า โครงการนี้มีความเป็นไปได้สูง เพราะว่าเกษตรกรสามารถ ปลูกพืชผลทางการเกษตรให้เห็นเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตให้เห็นได้จริง ในขณะที่ยังไม่ได้รับการสนับสนุนเงินทุน  และยังเป็นตัวอย่างที่ดีของผู้นำเกษตรกรและกลุ่มเกษตรกรที่มีวินัย เอาใจใส่ และเข้มแข็ง มีความตั้งใจประกอบอาชีพเกษตรกรรมแบบยั่งยืน จึงคาดว่าใช้เวลาไม่นานประมาณ 2 สัปดาห์ จะได้รับการพิจารณาอนุมัตสินเชื่อให้ได้

โครงการตลาดกลางที่ดิน ถือเป็นอีกหนึ่งในโครงการหนึ่งในการบริหารจัดการที่ดินของ บจธ. เพื่อให้ เกิดการกระจายการถือครองที่ดินอย่างเหมาะสมและเป็นธรรมอย่างยั่งยืน ให้กับเกษตรกรยากจน หรือเกษตรกร ที่ไม่มีที่ทำกินทั่วประเทศ ได้มีที่ดินทำกิน ซี่งปัจจุบันเจ้าของที่ดินที่มีกรรมสิทธิ์ที่ถือครองที่ดิน แล้วไม่ได้บริหารจัดการที่ดินให้เกิดประโยชน์ หรือเป็นที่ดินว่างเปล่าทั่วประเทศ มีไม่ต่ำกว่า 1.3 ล้านไร่ โดยทาง บจธ. ประสงค์ให้เจ้าของทีดินว่างเปล่าเหล่านี้ได้เข้ามาร่วมในโครงการตลาดกลางที่ดินกับ บจธ. เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการที่เกิดประโยชน์ให้กับเกษตรกรที่มีความต้องการใช้ที่ดินทำเกษตรกรรมต่อไป

สำหรับเกษตรกรและผู้ยากจนที่ต้องการรับการช่วยเหลือเงินสินเชื่อดังกล่าว สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ www.labai.or.th หรือส่งอีเมลล์ที่ labai@labai.or.th หรือโทรติดต่อได้ที่ โทร 0 2278-1244, 02278-1648 ต่อ 601,602,610 มือถือ 09 2659 1689