สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 3 ม.ค. 67 เวลา 7.00 น.
สภาพอากาศวันนี้ : ภาคเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกอากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง
คาดการณ์ : ในวันที่ 4 – 8 ม.ค. 67 มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคใต้ตอนล่าง
ปริมาณน้ำรวมทั้งประเทศ ณ วันที่ 2 ม.ค. 66 61,409 ล้าน ลบ.ม. (75%) น้อยกว่า ปี 66 จำนวน 4,071 ล้าน ลบ.ม. และมีปริมาณน้ำใช้การ 37,197 ล้าน ลบ.ม. (64%)
เฝ้าระวังน้ำน้อย 3 แห่ง ภาคเหนือ: สิริกิติ์ ภาคกลาง : กระเสียว ภาคตะวันออก : คลองสียัด ต้องเฝ้าระวังในช่วงฤดูแล้ง
ติดตามอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง ปริมาณน้ำ > 100% ภาคใต้ 1 แห่ง : คลองแห้ง
การให้ความช่วยเหลือ
กองทัพบก ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี อ.บันนังสตา จ.ยะลา อ.เมือง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส พร้อมทั้งทำการฟื้นฟูทำความสะอาดสถานศึกษาหลังน้ำลด (Big Cleaning Day) รวมถึงดำเนินการติดตั้งสะพานเครื่องหนุนมั่นแบบเร่งด่วน Modular Fast Bridge (MFB) เพื่ออำนวยความสะดวกให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ ณ บ้านบายิ ม.4 ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา จ.ยะลา และมอบชุดธารน้ำใจ สภากาชาดไทย จำนวน 2,800 ชุด ให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
คุณภาพน้ำในแม่น้ำสายหลัก อยู่ในเกณฑ์ปกติ
ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่า สทนช. เตรียมมาตรการที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศ โดยได้ดำเนินการภายใต้แคมเปญ “รวมพลังลดท่วมลดแล้งรับมือภัยเอลนีโญ” ประกอบด้วย
1. มาตรการลดท่วมในพื้นที่ภาคใต้ เนื่องจากพื้นที่ภาคใต้มีความเสี่ยงเกิดสถานการณ์น้ำท่วม สทนช. จึงได้จัดตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคใต้ที่จังหวัดยะลา เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือและบริหารจัดการสถานการณ์ ติดตามประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ และอำนวยการหน่วยงานในพื้นที่ในการบริหารจัดการมวลน้ำในช่วงฤดูฝนให้เกิดความเป็นเอกภาพ จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายโดยเร็ว โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย ซึ่งทุกหน่วยงานจะร่วมกันขับเคลื่อนการปฏิบัติงาน เตรียมเจ้าหน้าที่ ทรัพยากร สถานที่ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้พร้อมรับมือสถานการณ์อุทกภัย
2. มาตรการลดแล้ง สทนช. ได้เร่งบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ติดตาม ตรวจสอบ แก้ไขปัญหาพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำ โดยเฉพาะน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค ช่วยลดความเสี่ยงในการส่งผลกระทบต่อประชาชนให้น้อยที่สุด พร้อมทั้งเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมดำเนินการจัดทำแผนป้องกันและแก้ไข เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่มีน้ำใช้อย่างเพียงพอตลอดช่วงฤดูแล้งนี้
3. มาตรการส่งเสริมรณรงค์ภาคประชาชนร่วมประหยัดน้ำ โดย สทนช. ได้มีการเผยแพร่เพลง “ประหยัดน้ำ คือ ประหยัดเงิน” ผ่านการสื่อสารในรูปแบบคลิปวิดีโอ แสดงให้เห็นถึงวิธีประหยัดน้ำ ซึ่งสามารถปฏิบัติตามได้อย่างง่าย ๆ เพื่อช่วยกระตุ้นให้ประชาชนรับรู้เรื่องการใช้ทรัพยากรน้ำอย่างเหมาะสม จะช่วยลดปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำได้อย่างยั่งยืน
จากสถานการณ์มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมบริเวณเกาะสุมาตราและทะเลอันดามันตอนล่าง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่งผลให้เกิดอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ 1 จังหวัด ได้แก่ จ.ปัตตานี 1 อำเภอ 2 ตำบล 3 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 722 ครัวเรือน
ศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคใต้ ร่วมกับ ศอ.บต. กรมชลประทาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานในพื้นที่ เข้าให้การช่วยเหลือและเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ ปัจจุบันระดับน้ำลดลง