กรมการแพทย์แผนไทยฯ ชู สรรพคุณ “กล้วยน้ำว้า” สมุนไพรใกล้ตัวสารพัดประโยชน์

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เผยสรรพคุณจากส่วนต่างๆของ “กล้วยน้ำว้า” เช่น ผลกล้วยดิบ ผลกล้วยสุก และ ปลีกล้วย เป็นยารักษาโรคตามศาสตร์การแพทย์แผนไทย ในส่วนของลำต้น สามารถนำมาดัดแปลงประดิษฐ์เป็นกระทงสำหรับลอย เพื่อขอขมาต่อพระแม่คงคา เนื่องในวันลอยกระทง

นายแพทย์ขวัญชัย วิศิษฐานนท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแทย์ทางเลือก กล่าวว่า วันลอยกระทงตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 โดยในปีนี้ ตรงกับวันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2566 ซึ่งเป็นประเพณี ตามคติความเชื่อเพื่อขอขมาต่อพระแม่คงคา ในปัจจุบันการทำกระทงนั้นมีการดัดแปลงต่างกันไปในหลายรูปแบบแต่ที่เป็นที่นิยมมักทำมาจากวัสดุธรรมชาติโดยเฉพาะต้นกล้วยและใบตอง นอกจากการนําต้นกล้วยและส่วนต่างๆ ของกล้วยมาประดิษฐ์เป็นกระทงหรืองานฝีมืออื่นๆแล้ว ยังสามารถนํามาประกอบอาหาร และ ส่วนต่างๆ ของกล้วย โดยเฉพาะกล้วยน้ำว้า ยังมีสรรพคุณทางยา อีกด้วย

การใช้ประโยชน์จากต้นกล้วย นอกเหนือจากการนำใบตองมาใช้ห่ออาหารหรืองานศิลปหัตถกรรม เช่น กลีบกระทง บายศรี หรือการนำต้นกล้วยมาหั่นเป็นท่อนใช้ทำฐานกระทง รวมไปถึงหยวกกล้วยที่สามารถนำไปประกอบอาหารได้ เช่น แกงส้มหยวกกล้วย หมกไก่ใส่หยวกกล้วย รวมไปถึงส่วนอื่นๆของกล้วยน้ำว้า ยังมีสรรพคุณทางยา ได้แก่ ผลกล้วยน้ำว้าดิบ มีรสฝาด บรรเทาอาการท้องเสียชนิดที่ไม่เกิดจากการติดเชื้อ (อุจจาระไม่เป็นมูก หรือมีเลือดปน) เนื่องจากสารแทนนินในกล้วยน้ำว้าดิบหรือห่าม มีสรรพคุณช่วยลดการหดเกร็งและลดการเคลื่อนไหวของลำไส้ จะช่วยบรรเทาอาการท้องเสียได้ วิธีรับประทาน ให้รับประทานครั้งละ ครึ่งลูก หรือ 1 ลูก หรือฝานเป็นแว่น ๆ ตากแดดให้แห้งแล้วบดเป็นผง รับประทานครั้งละ 10 กรัม ชงในน้ำร้อน 120 – 200 มิลลิลิตร วันละ 3 ครั้ง ก่อนอาหาร ในบัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพรได้บรรจุให้ยากล้วย มีข้อบ่งใช้สำหรับ รักษาแผลในกระเพาะอาหาร และบรรเทาอาการท้องเสียชนิดที่ไม่เกิดจากการติดเชื้อ สำหรับข้อควรระวัง ไม่ควรใช้กับ ผู้ที่มีอาการท้องผูก และการรับประทานยานี้ติดต่อกันนาน ๆ อาจทำให้ท้องอืดได้ ผลกล้วยน้ำว้าสุก มีรสหวาน มีฤทธิ์เป็นยาระบาย ช่วยบรรเทาอาการท้องผูก เนื่องจากมีสารเพคตินอยู่เป็นจำนวนมาก จึงช่วยเพิ่มกากอาหารให้กับลำไส้ เมื่อผนังลำไส้ถูกดันก็จะทำให้รู้สึกอยากขับถ่าย วิธีรับประทาน ให้รับประทานครั้งละ 1 – 2 ลูก และดื่มน้ำเปล่าตามมากๆ นอกจากสรรพคุณ จากผลกล้วยแล้ว เปลือกกล้วย ยังมีประโยชน์โดยจะช่วยผลัดเซลล์ผิวและช่วยให้ผิวพรรณนุ่มชุ่มชื้น ช่วยแก้ปัญหา ข้อศอกด้าน ข้อเข่าด้าน วิธีการทำ หลังจากอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายแล้ว ให้นำเปลือกกล้วยโดยนำด้านในของเปลือกกล้วยมาขัดถู และพอกบริเวณข้อศอกหรือข้อเข่า ทิ้งไว้ 10 -15 นาที แล้วล้างออก หัวปลี สรรพคุณ บำรุงโลหิตสำหรับมารดาหลังคลอด และ ช่วยบำรุงน้ำนมในสตรีที่ให้นมบุตร หรือนำมาประกอบเมนูอาหารได้หลากหลาย เช่น แกงเลียงหัวปลี ต้มยำหัวปลี ยำหัวปลี เป็นต้น

นายแพทย์ขวัญชัย กล่าวในตอนท้ายว่า ในช่วงลอยกระทงนี้ถือเป็นโอกาสอันดี ให้เราตระหนักถึงความสำคัญ ของแหล่งน้ำ เพราะหากเรามีแหล่งน้ำที่ไม่สะอาดแล้วอาจก่อให้เกิดโรคตามมาได้ ดังนั้นควรช่วยกันดูแลแม่น้ำ ลำคลอง ให้สะอาดเพื่อสุขภาวะและสิ่งแวดล้อมที่ดี และหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับศาสตร์การแพทย์แผนไทย การแพทย์ทางเลือก สามารถขอคําปรึกษาจากแพทย์แผนไทยในสถานบริการสาธารณสุขของรัฐทั่วประเทศ หรือติดต่อโดยตรงที่กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก หมายเลขโทรศัพท์ 0 2149 5678หรือช่องทางออนไลน์ที่FACEBOOK กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก www.facebook.com/dtam.moph และline @DTAM