สถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 13 ต.ค. 66 เวลา 7.00 น.

สภาพอากาศวันนี้: ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้
คาดการณ์: ในช่วงวันที่ 15-18 ต.ค. 66 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

ปริมาณน้ำรวมทั้งประเทศ ณ วันที่ 12 ต.ค. 66 น้อยกว่าปี 2565 จำนวน 8,199 ล้าน ลบ.ม. สรุปได้ดังนี้
ปริมาณน้ำทั้งประเทศ 59,091 ล้าน ลบ.ม. (72%) ปริมาณน้ำใช้การ 34,923 ล้าน ลบ.ม. (60%)

เฝ้าระวังแหล่งน้ำขนาดใหญ่

เฝ้าระวังน้ำมาก 9 แห่ง ภาคเหนือ: แม่ดสมบูรณ์ชล แม่มอก และกิ่วลม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : ห้วยหลวง ลำปาว หนองหาร น้ำพุง และอุบลรัตน์ ภาคตะวันออก : ขุนด่านปราการชล ขอให้หน่วยงานพิจารณาบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสมเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบหรือเกิดผลกระทบน้อยที่สุดบริเวณท้ายเขื่อน และคำนึงถึงการเก็บกักน้ำสำหรับฤดูแล้งนี้ด้วย

เฝ้าระวังน้ำน้อย 4 แห่ง ภาคเหนือ: สิริกิติ์ และทับเสลา ภาคตะวันออก : คลองสียัด ภาคตะวันตก: ปราณบุรี โดยขอให้หน่วยงานดำเนินการ 1) วางแผนการระบายน้ำโดยจัดลำดับความสำคัญตามที่คณะกรรมการลุ่มน้ำกำหนด 2) ประชาสัมพันธ์ และสร้างการรับรู้ให้กับเกษตรกรและขอความร่วมมือให้เกษตรกรงดการปลูกข้าวนาปีต่อเนื่อง และ 3) เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ โดยการใช้น้ำภาคการเกษตรให้ส่งเสริมการปรับเปลี่ยนการเพาะปลูกพืช เพื่อลดความเสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำและเพิ่มรายได้ในพื้นที่

สถานการณ์อุทกภัย
พื้นที่ชุมชน รวม 9 จังหวัด 30 อำเภอ 127 ดำบล 740 หมู่บ้าน ประชาชน์ได้รับผลกระทบ 17,223 ครัวเรือน ดังนี้
– ภาคเหนือ จ.สุโขทัย และพิษณุโลก ระดับน้ำมีแนวโน้มลดลง ส่วน จ.เพชรบูรณ์ ระดับน้ำมีแนวโน้มทรงตัว
– ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.นครราชสีมา ชัยภูมิ ร้อยเอ็ดและหนองบัวลำภู ระดับน้ำมีแนวโน้มลดลง จ.กาฬสินธุ์ และอุบลราชธานี ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
พื้นที่เกษตรกรรม รวม 22 จังหวัด 420,442 ไร่ ได้แก่ จ. อุตรดิตถ์ พิษณุโลก ตาก สุโขทัย เพชรบูรณ์ ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี หนองบัวลำภู อุดรธานี ร้อยเอ็ด ขอนแก่น กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ ยโสธร นครราชสีมา อุบลราชธานี ปราจีนบุรี และสระแก้ว

สทนช. ประกาศ ฉบับที่ 3/2566 เรื่องเฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำที่มีความเสี่ยง และน้ำล้นตลิ่ง ในช่วงวันที่ 12 – 18 ต.ค. 2566 ดังนี้
1. อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ที่มีปริมาตรน้ำสูงกว่าเกณฑ์ปฏิบัติการอ่างเก็บน้ำกักเก็บสูงสุด (Upper Rule Curve) จำนวน 9 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำแม่งัดสมบูรณ์ชล กิ่วลม แม่มอก น้ำห้วยหลวง น้ำพุง หนองหาร อุบลรัตน์ ลำปาว และขุนด่านปราการชล อ่างเก็บน้ำขนาดกลางและขนาดเล็กที่มีปริมาตรน้ำมากกว่าร้อยละ 80 และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เสี่ยงน้ำล้นกระทบพื้นที่บริเวณท้ายอ่างเก็บน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณอ่างเก็บน้ำป่าสักชลสิทธิ์ คาดการณ์ว่าจะมีน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน และมีแนวโน้มปริมาตรน้ำมากกว่าร้อยละ 80
2. พื้นที่เสี่ยงน้ำล้นตลิ่งและท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ
2.1 แม่น้ำยม บริเวณ อ.ศรีสัชนาลัย สวรรคโลก ศรีสำโรง เมืองสุโขทัย และกงไกรลาศ จ.สุโขทัย อ.พรหมพิราม และบางระกำ จ.พิษณุโลก อ.สามง่าม และโพทะเล จ.พิจิตร
2.2 แม่น้ำมูล บริเวณสถานี M.7 อ.เมืองอุบลราชธานี จ.อุบลราชธานี คาดการณ์ว่าระดับน้ำจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอยู่ที่ +113.00 ถึง +113.50 ม.รทก. สูงกว่าตลิ่ง 1.00–1.50 ม. ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำบริเวณ อ.เมืองอุบลราชธานี วารินชำราบ พิบูลมังสาหาร ดอนมดแดง ตระการพืชผล และม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี
2.3 แม่น้ำยัง บริเวณสถานี E.92 อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด คาดการณ์ว่าในวันที่ 10-11 ต.ค. 66 ระดับน้ำจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น สูงกว่าตลิ่ง 1.00-1.50 ม. ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำบริเวณ อ.เสลภูมิ และโพนทอง จ.ร้อยเอ็ด และลดลงต่ำกว่าตลิ่ง ในวันที่ 13-14 ต.ค. 66

พื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในช่วง 1-3 วัน บริเวณ ภาคเหนือ จ.เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ตาก กำแพงเพชร และสุโขทัย ภาคกลาง จ.นครสวรรค์ และอุทัยธานี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.บุรีรัมย์ และนครราชสีมา ภาคตะวันออก จ.จันทบุรี ภาคใต้ จ.ตรัง

ศูนย์ฯส่วนหน้าภาคกลาง ลงพื้นที่ทำประชาคมรับฟังความคิดเห็นรับน้ำเข้าทุ่งเจ้าเจ็ด-บางยี่หน
เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 66 นายฐนโรจน์ วรรัฐประเสริฐ ผู้อำนวยการ ศูนย์อำนวยการน้ำแห่งชาติ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะฝ่ายเลขานุการศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย ภาคกลาง ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ทำประชาคมรับฟังความคิดเห็นกับผู้นำท้องถิ่นและชาวบ้านในพื้นที่อ.บางซ้าย จ.พระนครศรีอยุธยา ในกรณีการรับน้ำเข้าทุ่งเจ้าเจ็ด-บางยี่หน ณ ที่ว่าการ อ.บางซ้าย จ.พระนครศรีอยุธยา โดยในที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบให้มีการรับน้ำเข้าทุ่งฯ ได้อีกไม่เกิน 0.20 เมตร

น้ำเพื่ออุปโภค-บริโภค แม่น้ำเจ้าพระยา ณ สถานีสูบน้ำสำแล จ.ปทุมธานี อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
น้ำเพื่อการเกษตร แม่น้ำท่าจีน แม่น้ำแม่กลอง และแม่น้ำบางปะกงอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน