สถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 21 ก.ย. 66 เวลา 7.00 น.

ภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่ง

ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณ จ.ราชบุรี (110) จ.ระยอง (97) จ.ลำปาง (88) จ.ปทุมธานี (79) จ.สตูล (60) และ จ.อุบลราชธานี (47)

ปริมาตรแหล่งน้ำทุกขนาด 50,059 ล้าน ลบ.ม. (63%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 44,781 ล้าน ลบ.ม. (63%)

คุณภาพน้ำในแม่น้ำสายหลัก อยู่ในเกณฑ์ปกติทุกสถานี

กรมทรัพยากรน้ำ ดำเนินงานโครงการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพแหล่งน้ำ ต.ยางน้ำกลัดใต้ อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการกักเก็บน้ำรองรับสถานการณ์ภัยแล้ง และป้องกันการเกิดอุทกภัยในพื้นที่ ลดความเสียหายจากภัยพิบัติในอนาคต ประชาชนในพื้นที่ได้รับผลประโยชน์ 650 ไร่ 90 ครัวเรือน

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ประกาศฉบับที่ 19/2566เฝ้าระวังระดับน้ำบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา ในช่วงวันที่ 22-26 ก.ย. 66
ด้วยกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้ติดตามสถานการณ์น้ำ พบว่ามีฝนตกหนักและตกสะสมในภาคเหนือ และภาคกลาง คาดการณ์จะมีปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ จ.นครสวรรค์ (C.2) อยู่ในเกณฑ์ 900–1,200 ลบ.ม. ต่อวินาที และมีน้ำจากแม่น้ำสะแกกรังและลำน้ำสาขาไหลมารวมกับแม่น้ำเจ้าพระยา ปริมาณ 90-120 ลบ.ม. ต่อวินาที ซึ่งจะทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ในเกณฑ์ 990– 1,320 ลบ.ม. ต่อวินาที ดังนั้น จึงมีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น อยู่ในเกณฑ์ 700–1,000 ลบ.ม. ต่อวินาที โดยจะส่งผลให้ระดับน้ำบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ คลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา และ ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา เพิ่มสูงขึ้นประมาณ 0.60 – 0.80 เมตร

ทั้งนี้ กอนช. ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำ ดังนี้

1. ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ตรวจสอบความมั่นคงอาคารป้องกันริมแม่น้ำและเสริมคันบริเวณจุดเสี่ยงที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลและแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมน้ำนอกแนวคันกั้นน้ำ แนวเขื่อนชั่วคราวในบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร (แนวฟันหลอ) และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำทราบล่วงหน้า

2. เตรียมเครื่องจักรเครื่องมือเพื่อบูรณาการความพร้อมให้ความช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนได้ทันที

3. ปรับแผนบริหารจัดการน้ำ อ่างเก็บน้ำ เขื่อนระบายน้ำ ประตูระบายน้ำ ระบบชลประทาน เพื่อบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ สำหรับเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ขอให้บริหารจัดการน้ำโดยใช้ระบบชลประทานในการนำเข้าคลองต่าง ๆ ทั้งด้านฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยาให้ได้มากที่สุดตามศักยภาพคลองชลประทาน ในแต่ละช่วงเวลาที่สามารถรองรับได้ เพื่อลดปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา