ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก
ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงสูงสุดที่ผ่านมารายภาค มีฝนตกหนักถึงหนักมาก บริเวณ จ.อุตรดิตถ์ (203) จ.ตราด (105) จ.มุกดาหาร (92) จ.ยะลา (82) จ.ประจวบคีรีขันธ์ (49) จ.ลพบุรี (40)
ปริมาตรแหล่งน้ำทุกขนาด 44,638 ล้าน ลบ.ม. (54%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 40,108 ล้าน ลบ.ม. (56%)
กอนช. ประกาศเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ฉบับที่ 17/2566 ในช่วงวันที่ 5-10 ก.ย. 66 บริเวณ ภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก แพร่ น่าน พิษณุโลก เพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์ และกำแพงเพชร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.เลย ชัยภูมิ มุกดาหาร นครพนม และนครราชสีมา ภาคตะวันออก จ.ฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด ภาคกลาง จ.อุทัยธานี และกาญจนบุรี ภาคใต้ จ.นครศรีธรรมราช ระนอง และภูเก็ต และเฝ้าพื้นที่เสี่ยงระดับน้ำล้นตลิ่งและท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ ริมแม่น้ำน่านและลำน้ำสาขา จ.น่าน
สทนช.เร่งบริหารแก้ปัญหาน้ำ 3 ด้าน น้ำท่วม น้ำแล้ง และน้ำเสีย ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต
ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ จังหวัดภูเก็ต ปัจจุบัน จังหวัดภูเก็ต ยังประสบปัญหาทั้งด้านการขาดแคลนน้ำเป็นประจำทุกปี จากภาวะฝนทิ้งช่วงหรือฤดูแล้ง นอกจากนี้ ยังมีปัญหาน้ำท่วม เกิดจากคลองส่วนใหญ่น้ำล้นตลิ่งเนื่องจากสภาพทางภูมิประเทศในบางช่วงที่เป็นลักษณะคอขวด ทำให้ระบายน้ำได้น้อยจนเกิดน้ำสะสมล้นตลิ่ง รวมถึงมีสิ่งกีดขวางทางน้ำ น้ำทะเลหนุนบริเวณชายฝั่ง
เพื่อให้การแก้ไขด้านทรัพยากรน้ำในพื้นที่ภูเก็ตบรรลุผลมีการบูรณาการอย่างเป็นระบบตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ท้ายน้ำ สทนช. ได้ทำโครงการศึกษาแผนหลักแบบบูรณาการเพื่อการบรรเทาอุทกภัยและภัยแล้งพื้นที่เฉพาะ (Area based) เกาะภูเก็ต ตามแนวทางการบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการ ที่ครอบคลุมตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี ทั้งนี้ หากโครงการแล้วเสร็จจะสามารถเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้จังหวัดภูเก็ตได้ ประมาณ 60.53 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่รับประโยชน์จากการจัดการด้านอุทกภัย จำนวน 42,796 ไร่ และสามารถเพิ่มศักยภาพในการบำบัดน้ำเสียได้ จำนวน 4.96 ล้าน ลบ.ม./ปี
การบำบัดน้ำเสียและการนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ เป็นแผนหลักการบริหารจัดการน้ำของจังหวัดภูเก็ต ซึ่ง โรงปรับปรุงคุณภาพน้ำ เทศบาลเมืองป่าตอง จ.ภูเก็ต เป็นหนึ่งในพื้นที่ต้นแบบที่สามารถใช้ขยายผลให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อนำไปดำเนินการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ของตนเองได้ เทศบาลเมืองป่าตองได้เล็งเห็นความสำคัญในการแก้ไขปัญหาน้ำเสียที่เกิดขึ้น จึงได้มีการจัดตั้งโรงปรับปรุงคุณภาพน้ำเสีย เพื่อเป็นศูนย์รวมในการบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยออกสู่สิ่งแวดล้อม โดยเริ่มดำเนินการตั้งปี 2532 ความสามารถในการบำบัดน้ำเสีย 2,250 ลบ.ม./วัน และได้พัฒนาปรับปรุงระบบต่างๆ เรื่อยมา จนกระทั่งปัจจุบันสามารถรองรับน้ำเสียได้รวม 39,000 ลบ.ม./วัน