สถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 26 ส.ค. 66 เวลา 7.00 น.

ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงสูงสุดที่ผ่านมารายภาค มีฝนตกหนักถึงหนักมาก บริเวณ จ.ยะลา (96) จ.บึงกาฬ (92) จ.เชียงราย (92) จ.สระบุรี (52) จ.ชลบุรี (50) จ.ประจวบคีรีขันธ์ (48)

ปริมาตรแหล่งน้ำทุกขนาด 43,829 ล้าน ลบ.ม. (55%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 39,422 ล้าน ลบ.ม. (55%)

คุณภาพน้ำในแม่น้ำสายหลัก อยู่ในเกณฑ์ปกติทุกสถานี

พื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในช่วง 1-3 วัน บริเวณ ภาคเหนือ จ.น่าน เชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอน ภาคตะวันออก จ.ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.สกลนคร นครพนม หนองคาย และบึงกาฬ

สทนช. ติดตามการแก้ไขปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ ต.ทุ่งผึ้ง อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง
สทนช. ติดตามการแก้ไขปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ ต.ทุ่งผึ้ง อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง ซึ่งพื้นที่ประมาณ 3,500 ไร่ ในหมู่ 2 บ้านแจ้คอน หมู่ 3 บ้านหัวฝาย หมู่ 4 บ้านทุ่งผึ้ง และหมู่ 6 บ้านแจ้คอน ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำเนื่องจากอ่างเก็บน้ำแม่ตากมีปริมาณน้ำน้อยสภาพแห้งขอด จึงไม่มีน้ำสำหรับช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร ส่งผลให้มีความเสี่ยงที่จะยืนต้นตาย

ทั้งนี้ พื้นที่การเกษตรดังกล่าวเป็นการทำนาปีรอบแรก (นาดำ) คาดว่าจะเก็บเกี่ยวได้ในช่วงประมาณเดือน ธ.ค. 66 โดยเทศบาลตำบลทุ่งผึ้งได้ประสานสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตรียมความพร้อมและวางแผนให้การช่วยเหลือในระยะแรก เพื่อบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำให้เกษตรกรเบื้องต้น ป้องกันไม่ให้นาข้าวยืนต้นตายไปจนถึงระยะเก็บเกี่ยว รวมทั้งเป็นการเพิ่มน้ำต้นทุนสำหรับอุปโภค บริโภค ใน 4 หมู่บ้าน โดยจะใช้เครื่องสูบน้ำระยะไกล สูบน้ำจากแม่น้ำวัง นำมาพักไว้ที่บริเวณสระโป่ง เป็นระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ความจุประมาณ 100,000 ลูกบาศก์เมตร จากนั้นจะทำการสูบน้ำต่อไปยังอ่างเก็บน้ำแม่ตากเหนือ อีกประมาณ 2.5 กิโลเมตร เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาในระยะยาว มีแผนที่จะขุดลอกอ่างเก็บน้ำแม่ตากเหนือเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุน และหาแหล่งน้ำสำรองเพิ่มเติมต่อไป