ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงสูงสุดที่ผ่านมารายภาค มีฝนตกหนักถึงหนักมาก บริเวณ จ.ยะลา (96) จ.บึงกาฬ (92) จ.เชียงราย (92) จ.สระบุรี (52) จ.ชลบุรี (50) จ.ประจวบคีรีขันธ์ (48)
ปริมาตรแหล่งน้ำทุกขนาด 43,829 ล้าน ลบ.ม. (55%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 39,422 ล้าน ลบ.ม. (55%)
คุณภาพน้ำในแม่น้ำสายหลัก อยู่ในเกณฑ์ปกติทุกสถานี
พื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในช่วง 1-3 วัน บริเวณ ภาคเหนือ จ.น่าน เชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอน ภาคตะวันออก จ.ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.สกลนคร นครพนม หนองคาย และบึงกาฬ
สทนช. ติดตามการแก้ไขปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ ต.ทุ่งผึ้ง อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง
สทนช. ติดตามการแก้ไขปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ ต.ทุ่งผึ้ง อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง ซึ่งพื้นที่ประมาณ 3,500 ไร่ ในหมู่ 2 บ้านแจ้คอน หมู่ 3 บ้านหัวฝาย หมู่ 4 บ้านทุ่งผึ้ง และหมู่ 6 บ้านแจ้คอน ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำเนื่องจากอ่างเก็บน้ำแม่ตากมีปริมาณน้ำน้อยสภาพแห้งขอด จึงไม่มีน้ำสำหรับช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร ส่งผลให้มีความเสี่ยงที่จะยืนต้นตาย
ทั้งนี้ พื้นที่การเกษตรดังกล่าวเป็นการทำนาปีรอบแรก (นาดำ) คาดว่าจะเก็บเกี่ยวได้ในช่วงประมาณเดือน ธ.ค. 66 โดยเทศบาลตำบลทุ่งผึ้งได้ประสานสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตรียมความพร้อมและวางแผนให้การช่วยเหลือในระยะแรก เพื่อบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำให้เกษตรกรเบื้องต้น ป้องกันไม่ให้นาข้าวยืนต้นตายไปจนถึงระยะเก็บเกี่ยว รวมทั้งเป็นการเพิ่มน้ำต้นทุนสำหรับอุปโภค บริโภค ใน 4 หมู่บ้าน โดยจะใช้เครื่องสูบน้ำระยะไกล สูบน้ำจากแม่น้ำวัง นำมาพักไว้ที่บริเวณสระโป่ง เป็นระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ความจุประมาณ 100,000 ลูกบาศก์เมตร จากนั้นจะทำการสูบน้ำต่อไปยังอ่างเก็บน้ำแม่ตากเหนือ อีกประมาณ 2.5 กิโลเมตร เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาในระยะยาว มีแผนที่จะขุดลอกอ่างเก็บน้ำแม่ตากเหนือเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุน และหาแหล่งน้ำสำรองเพิ่มเติมต่อไป