สถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 15 ส.ค. 66 เวลา 7.00 น.

ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก

ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงสูงสุดที่ผ่านมารายภาค มีฝนตกหนักถึงหนักมาก บริเวณ จ.สตูล (264) จ.เชียงราย (137) จ.นครพนม (80) จ.ลพบุรี (51) จ.จันทบุรี (42) และ จ.ประจวบคีรีขันธ์ (24)

ปริมาตรแหล่งน้ำทุกขนาด 43,736 ล้าน ลบ.ม. (53%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 39,036 ล้าน ลบ.ม. (54%)

คุณภาพน้ำในแม่น้ำสายหลัก อยู่ในเกณฑ์ปกติทุกสถานี

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมขัง น้ำหลาก ดินโคลนถล่ม และคลื่นลมในทะเล ช่วงวันที่ 11-16 สิงหาคม 2566 ในพื้นที่อำเภอต่างๆในจังหวัดพังงา พบว่าเกิดดินสไลด์ กีดขวางเส้นทางจราจร ถนนสายเมืองพังงา-กะปง พื้นที่ หมู่ที่ 1 ตำบลทุ่งคาโงก อำเภอเมืองพังงา ทั้งนี้ ได้ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในพื้นที่รวมถึงแขวงทางหลวงพังงาให้เข้าดำเนินการปรับปรุงเส้นทางจราจรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

กอนช. ประกาศ เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ฉบับที่ 14/2566 ในช่วงวันที่ 12-18 ส.ค. 66 ดังนี้ ภาคเหนือ จ.เชียงราย เชียงใหม่ ตาก และน่าน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.หนองคาย บึงกาฬ นครพนม และสกลนคร ภาคตะวันออก จ.ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้ จ.ระนอง พังงา ภูเก็ต สตูล และตรัง

กอนช. ติดตามหน่วยงานบริหารจัดการน้ำตาม 12 มาตรการรับมือฤดูฝน 2566
จากปรากฎการณ์เอลนีโญในปัจจุบัน ส่งผลให้มีปริมาณฝนตกน้อยกว่าค่าปกติ ส่งผลให้ปริมาณน้ำในเขื่อนต่างๆลดลง กระทบต่อปริมาณน้ำในภาพรวมโดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา นั้น กรมชลประทาน ได้บริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา โดยกำหนดแผนจัดสรรน้ำจาก 4 เขื่อนหลัก(เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2566 จนถึง 31 ตุลาคม 2566 จำนวนรวมทั้งสิ้น 5,500 ล้านลูกบาศก์เมตร พร้อมวางแผนการเพาะปลูกข้าวนาปี 8.05 ล้านไร่ จากข้อมูล ณ วันที่ 4 สิงหาคม 2566 สถานการณ์น้ำใน 4 เขื่อนหลักลุ่มเจ้าพระยา มีปริมาณน้ำใช้การรวมกันทั้งสิ้น 2,974 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งอยู่ในเกณฑ์น้อยมาก มีการจัดสรรน้ำไปแล้วรวม 4,525 ล้านลูกบาศก์เมตร มีพื้นที่เพาะปลูกไปแล้วประมาณ 7.15 ล้านไร่ เก็บเกี่ยวแล้ว 0.30 ล้านไร่

ปัจจุบัน ปริมาณฝนสะสมมีปริมาณฝนต่ำกว่าค่าเฉลี่ยประกอบกับปรากฏการณ์เอนโซที่อยู่ในสภาวะเอลนีโญกำลังอ่อน มีแนวโน้มจะทวีความรุนแรงขึ้นจะส่งผลให้เมื่อสิ้นสุดฤดูฝนปีนี้ 4 เขื่อนหลัก จะมีปริมาณน้ำใช้การได้รวมกันอยู่ในเกณฑ์ที่น้อยมาก เพียงพอเฉพาะการอุปโภคบริโภค และรักษาระบบนิเวศเท่านั้น ดังนั้น เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงผลผลิตทางการเกษตรเสียหาย จึงต้องประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือเกษตรกรที่ได้ทำการเพาะปลูกข้าวนาปีรอบแรกและเก็บเกี่ยวแล้วเสร็จ งดเพาะปลูกข้าวนาปีต่อเนื่อง เนื่องจากปริมาณน้ำต้นทุนมีไม่เพียงพอ ซึ่งเป็นไปตามมาตรการรับมือฤดูฝนปี 2566 ที่กองอำนวยการน้ำแห่งชาติกำหนด เพื่อรองรับสถานการณ์น้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด