วันที่ 12 สิงหาคม 2566 เวลา 08.30 น. นางสาวสาวิตรี อุดมพันธ์ พัฒนาการอำเภอเมืองสิงห์บุรี ร่วมกิจกรรม “ปลูกเดือนแม่ เกี่ยวเดือนพ่อ” พร้อมด้วยส่วนราชการ ภาคีเครือข่ายการพัฒนา พี่น้องประชาชนในพื้นที่ตำบลหัวไผ่ ณ ศูนย์เรียนรู้เกษตรอินทร์อินทรีย์ ไร่นาส่วนผสมตามแนวพระราชดำริ เศรษฐกิจพอเพียงในชุมชน วัดธรรมสังเวช ตำบลหัวไผ่ อำเภอเมืองสิงห์บุรี
กิจกรรมประกอบด้วย กิจกรรมดำนาปลูกข้าว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างพลังความสามัคคี ความเข้มแข็งแลกเปลี่ยนวิชาความรู้ ประสบการณ์การทำงานร่วมกัน รวมถึงเป็นการอนุรักษ์ สืบทอดประเพณีการดำนาปลูกข้าว การปลูกจิตสำนึกที่ดีในการอนุรักษ์วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชุมชนดั้งเดิม เกี่ยวกับภูมิปัญญาการทำนาของบรรพบุรุษให้ดำรงไว้ รวมถึงส่งเสริมการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ทั้งภาคราชการ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม สถานศึกษา เครือข่ายการพัฒนา และประชาชน
ปัจจุบันเกษตรกร มีอาชีพหลักคือ ทำนา โดยอาศัยน้ำฝนและน้ำที่กักเก็บในคลองสระในการทำนา พันธ์ุข้าวที่ใช้ เป็นพันธุ์ข้าวที่ใช้อายุการเก็บเกี่ยวไม่เกิน 4 เดือน ดังนั้นการทำนาโดยยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นแนวทางหลักในการดำเนินกิจกรรมสู่การพึ่งตนเอง และสร้างรายได้อย่างยั่งยืน
วัดธรรมสังเวช ตั้งอยู่เลขที่ 1 หมู่ที่ 8 ตำบลหัวไผ่ อำเภอเมืองสิงห์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่มีเนื้อที่ 25 ไร่ 3 งาน 16 ตารางวา วัดธรรมสังเวช ตั้งเมื่อ พ.ศ. 2419 แต่เดิมเรียกว่า “วัดตากแดด” เพราะเหตุว่า ตั้งอยู่ริมคลองธรรมชาติ ส่วนคำที่เรียกว่าวัดตากแดด เพราะเหตุว่า ในสมัยก่อนเป็นการก่อสร้างคือเรือนมุงแถบเดียวหรือที่เรียกว่า”เพิง” แดดจึงส่องได้ทั้งช่วงเช้าและช่วงบ่าย เป็นที่สังเวช ของประชาชนที่ผ่านไปมาอย่างยิ่ง ต่อมาเวลาล่วงเลยไปได้ประมาณ 9 ปี พระอาจารย์ภู ได้มรณภาพลง ทำให้วัดตากแดดว่างจากพระสงฆ์ พ่อหลี แม่กี่ ปิยะชนได้เป็น ผู้นำพาอุบาสก อุบาสิกา ช่วยกันทำนุบำรุงรักษาวัดตากแดดไว้ และได้ปรึกษากันว่าควรจะตั้งชื่อวัดกันเสียใหม่เอาคำว่าสังเวชไว้ เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจ จึงให้ชื่อใหม่ว่า “วัดธรรมสังเวช” ในปัจจุบัน