สถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 10 ส.ค. 66 เวลา 7.00 น.

ประเทศไทยมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ และภาคใต้ฝั่งตะวันตก

ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณ จ.นราธิวาส (85) จ.แพร่ (81) จ.สกลนคร (75) กรุงเทพมหานคร (51) จ.ตราด (47) และ จ.กาญจนบุรี (39)

ปริมาตรแหล่งน้ำทุกขนาด 42,963 ล้าน ลบ.ม. (52%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 38,240 ล้าน ลบ.ม. (53%)

คุณภาพน้ำในแม่น้ำสายหลัก อยู่ในเกณฑ์ปกติทุกสถานี

สทนช. ลงพื้นที่ติดตามโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำสระสาธารณะ พร้อมระบบกระจายน้ำ สนับสนุนโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต.บ้านแก้ง อ.เมือง จ.สระแก้ว มีวัตถุประสงค์เพื่อสนองพระราชดำริโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ เพิ่มแหล่งกักเก็บน้ำสำหรับบรรเทาป้องกันปัญหาอุทกภัย เป็นแหล่งน้ำสำหรับการเพาะปลูก ฟื้นฟูแหล่งน้ำธรรมชาติ และรักษาระบบนิเวศ มีพื้นที่รับประโยชน์ 80 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์ 10 ครัวเรือน

กอนช. ประกาศ ฉบับที่ 14/2566 เรื่อง เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในช่วงวันที่ 12-18 ส.ค. 66 เนื่องจากร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านตอนบนของประเทศไทย เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง

กอนช. วิเคราะห์สถานการณ์น้ำด้วยฝนคาดการณ์จากกรมอุตุนิยมวิทยา และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) และการคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงน้ำหลากและพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่มบริเวณต้นน้ำ จากกรมทรัพยากรน้ำและกรมทรัพยากรธรณี ในช่วงวันที่ 12 – 18 สิงหาคม 2566 มีพื้นที่เฝ้าระวังเสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และพื้นที่ชุมชนเมืองที่เคยเกิดน้ำท่วมขังไม่สามารถระบายได้ทัน ดังนี้

1. ภาคเหนือ จ.เชียงราย (อ.แม่จัน แม่สาย และแม่ฟ้าหลวง) จ.เชียงใหม่ (อ.อมก๋อย) จ.ตาก (อ.ท่าสองยาง แม่สอด แม่ระมาด และอุ้มผาง) จ.น่าน (อ.เมืองน่าน บ่อเกลือ ปัว เชียงกลาง ทุ่งช้าง เฉลิมพระเกียรติ และสองแคว) โดยเฉพาะ จ.น่าน ซึ่งปัจจุบันมีน้ำท่วมขังอยู่ในพื้นที่ อ.เวียงสา อ.ท่าวังผา และ อ.แม่จริม ระดับน้ำจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีก

2. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.หนองคาย (อ.เมืองหนองคาย เฝ้าไร่ โพนพิสัย และรัตนวาปี) จ.บึงกาฬ (อ.เมืองบึงกาฬ ปากคาด บุ่งคล้า เซกา ศรีวิไล พรเจริญ โซ่พิสัย และบึงโขงหลง) จ.นครพนม (อ.เมืองนครพนม ท่าอุเทน ศรีสงคราม บ้านแพง นาทม และโพนสวรรค์) และ จ.สกลนคร (อ.บ้านม่วง และอากาศอำนวย)

3. ภาคตะวันออก จ.ระยอง (อ.เขาชะเมา บ้านค่าย แกลง และบ้านฉาง) จ.จันทบุรี (อ.เมืองจันทบุรี ขลุง เขาคิชฌกูฏ และท่าใหม่) จ.ตราด (อ.เมืองตราด คลองใหญ่ บ่อไร่ แหลมงอบเขาสมิง เกาะกูด และเกาะช้าง)

4. ภาคใต้ จ.ระนอง (อ.เมืองระนอง กะเปอร์ และกระบุรี) จ.พังงา (อ.คุระบุรี และท้ายเหมือง) จ.ภูเก็ต (อ.เมืองภูเก็ต กะทู้ และถลาง) จ.สตูล (อ.ละงู) จ.ตรัง (อ.กันตัง สิเกา และปะเหลียน)