สถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 21 ก.ค. 66 เวลา 7.00 น.

ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง

ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงสูงสุดที่ผ่านมารายภาค มีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณ จ.ตราด (325) จ.พังงา (152) จ.อุบลราชธานี (106) จ.เชียงราย (100) จ.ประจวบคีรีขันธ์ (49)

ปริมาตรแหล่งน้ำทุกขนาด 40,337 ล้าน ลบ.ม. (49%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 35,894 ล้าน ลบ.ม. (50%)

คุณภาพน้ำในแม่น้ำสายหลัก อยู่ในเกณฑ์ปกติทุกสถานี

กอนช. ได้คาดการณ์ปริมาณน้ำในพื้นที่แม่น้ำโขงตอนล่าง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนี้
• สถานีเชียงแสน จ.เชียงราย คาดการณ์ระดับน้ำจะเพิ่มขึ้นสูงสุด ในช่วงวันที่ 23-25 ก.ค. 66 ประมาณ 1.20-1.60 เมตร แต่ยังคงต่ำกว่าระดับตลิ่ง
• สถานีเชียงคาน จ.เลย คาดการณ์ระดับน้ำจะเพิ่มขึ้นสูงสุด ในช่วงวันที่
25 – 27 ก.ค. 66 ประมาณ 0.80-1.50 เมตร แต่ยังคงต่ำกว่าระดับตลิ่ง
• สถานีหนองคาย จ.หนองคาย จนถึง สถานีโขงเจียม จ.อุบลราชธานี คาดการณ์ระดับน้ำจะเพิ่มขึ้นสูงสุดในช่วงวันที่ 26 – 30 ก.ค. 66 ประมาณ 1.00 -1.50 เมตร แต่ยังคงต่ำกว่าระดับตลิ่ง

กอนช. ระดมหน่วยงาน ลุยซ้อมแผนเผชิญเหตุเตรียมตั้งศูนย์ส่วนหน้าพร้อมรับมือสถานการณ์อุทกภัยพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง

นายบุญสม ชลพิทักษ์วงศ์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะเลขานุการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เปิดโครงการฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุตั้งศูนย์ส่วนหน้าและสร้างความเข้มแข็งเครือข่ายภาคประชาชน ในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ณ เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา จ.ยะลา ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

การจัดกิจกรรมครั้งนี้จะเป็นการขับเคลื่อนการดำเนินงานในมาตรการที่ 8 ซักซ้อมแผนเผชิญเหตุ ตั้งศูนย์ส่วนหน้าก่อนเกิดภัยและฟื้นฟูสภาพให้กลับสู่สภาพปกติ (ตลอดช่วงฤดูฝน) และมาตรการที่ 10 การเสริมสร้างความเข้มแข็งเครือข่ายภาคประชาชนในการแลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์ระหว่างภาครัฐกับประชาชนในพื้นที่ บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้าร่วมการฝึกเตรียมความพร้อม ด้านบุคลากร ทรัพยากร สถานที่ สิ่งอำนวยสะดวกต่างๆ สำหรับพร้อมรับมือสถานการณ์อุทกภัยในช่วงฤดูฝนนี้ เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติจนเห็นผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อร่วมซักซ้อมการปฏิบัติตามมาตรการให้สามารถติดตาม ประเมิน บริหารจัดการ และคาดการณ์สถานการณ์น้ำ รวมถึงแจ้งเตือน และให้ความช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบอย่างมีความเป็นเอกภาพ ทันต่อสถานการณ์

จากการวิเคราะห์ฝนคาดการณ์ ONEMAP พบว่า ภาคใต้มีพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยในเดือนกรกฎาคม 2566 จำนวน 3 จ. ได้แก่ จ.กระบี่ ชุมพร และ
สุราษฎร์ธานี เดือนสิงหาคม 2566 จำนวน 7 จ. ได้แก่ จ.นครศรีธรรมราช พังงา ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี ชุมพร สตูล และตรัง เดือนกันยายน 2566 จำนวน 5 จ. ได้แก่ จ.พังงา ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี ชุมพร และสตูล เดือนตุลาคม 2566 จำนวน 6 จ. ได้แก่ จ.พังงา ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี ชุมพร สงขลา และสตูล นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2566 จำนวน 10 จ. และเดือนธันวาคม 2566 อีกจำนวน 8 จ. ทั้งนี้ พื้นที่เสี่ยงอุทกภัยจะมีการปรับปรุงเป็นประจำทุกเดือนเพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน