ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง
ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกปานกลางถึงหนักมากบริเวณ จ.พังงา (152) จ.สุรินทร์ (89) จ.พะเยา (86) จ.ระยอง (41) จ.ลพบุรี (34) จ.กาญจนบุรี (30)
ปริมาตรแหล่งน้ำทุกขนาด 40,317 ล้าน ลบ.ม. (49%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 35,850 ล้าน ลบ.ม. (50%)
คุณภาพน้ำในแม่น้ำสายหลัก อยู่ในเกณฑ์ปกติทุกสถานี ยกเว้นสถานีบางปะกง
กอนช. ประกาศเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก (เพิ่มเติมจากฉบับที่ 9/2566) ในช่วงวันที่ 18-21 ก.ค. 66 ดังนี้ ภาคเหนือ บริเวณ จ.เชียงใหม่ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณ จ.หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี นครพนม มุกดาหาร ชัยภูมิ อุบลราชธานี นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ และศรีสะเกษ ภาคกลาง บริเวณ จ.กาญจนบุรี และสระบุรี ภาคตะวันออก บริเวณ จ.จันทบุรี และตราด
กอนช. เร่งช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยจากพายุตาลิมและร่องมรสุมโดยสถานการณ์ในหลายพื้นที่เริ่มคลี่คลาย ชี้แม้มีปริมาณฝนมากขึ้น แต่ฝนสะสมทั้งประเทศยังคงต่ำกว่าค่าปกติ 24% แต่มีทิศทางดีขึ้น โดยยังต้องประหยัดน้ำและส่งเสริมการเพาะปลูกรอบเดียว พร้อมย้ำกรมชลประทานใช้อ่างพวงบริหารจัดการน้ำให้เกิดความสมดุล
วันที่ 19 ก.ค. 66 ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการ สทนช. ในฐานะรองผู้อำนวยการ กอนช. เปิดเผยภายหลังการประชุมการประเมินสถานการณ์น้ำ กอนช. ณ อาคารจุฑามาศ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมอุตุนิยมวิทยา สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) กรมทรัพยากรน้ำ กรมชลประทาน กรมทรัพยากรธรณี การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เป็นต้น เข้าร่วมการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยในช่วงที่ผ่านมาประเทศไทย มีปริมาณฝนตกเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากในบางพื้นที่ ซึ่งเกิดจากอิทธิพลของพายุตาลิม ร่องมรสุม และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ โดยพื้นที่ที่มีฝนมาก คือ บริเวณชายขอบของประเทศ โดยเฉพาะภาคเหนือฝั่งตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือฝั่งตะวันออก ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก ภาคใต้ตอนบน และฝั่งตะวันตก ซึ่งส่งผลให้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ เช่น จ.ระนอง และชุมพร รวมถึงเกิดดินสไลด์ในบางแห่ง ทั้งนี้ กอนช. ได้มีการออกประกาศล่วงหน้าเพื่อแจ้งเตือน พื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม พร้อมบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการขับเคลื่อน 12 มาตรการรับมือฤดูฝน เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์และให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัย ปัจจุบันสถานการณ์ในหลายพื้นที่เริ่มคลี่คลายแล้ว
ปัจจุบันพายุตาลิม ซึ่งอยู่บริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ได้ลดกำลังเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงแล้ว และจะค่อยๆ สลายตัว ทั้งนี้ สทนช. ได้ร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยา และ สสน. คาดการณ์ฝนและปริมาณน้ำจากอิทธิพลของพายุและร่องมรสุม คาดว่าจะส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ในช่วงวันที่ 16-22 ก.ค. 66 รวมกว่า 800 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งจะช่วยเติมเต็มปริมาณน้ำให้กับอ่างเก็บน้ำที่มีน้ำน้อย โดยคาดการณ์อ่างฯ ที่จะมีน้ำไหลเข้าสูงสุด ได้แก่ เขื่อนวชิราลงกรณ 188 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนสิริกิติ์ 108 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนสิริธร 83 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนรัชชประภา 69 ล้าน ลบ.ม. และเขื่อนลำปาว 63 ล้าน ลบ.ม.