ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น
ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณ จ.กาญจนบุรี (101) จ.นราธิวาส (88) จ.จันทบุรี (62) จ.สุพรรณบุรี (55) จ.เชียงราย (55) และ จ.สกลนคร (50)
ปริมาตรแหล่งน้ำทุกขนาด 40,612 ล้าน ลบ.ม. (49%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 36,154 ล้าน ลบ.ม. (51%)
คุณภาพน้ำในแม่น้ำสายหลัก อยู่ในเกณฑ์ปกติทุกสถานี
พื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในช่วง 12–13 ก.ค. 66 บริเวณ ภาคใต้ จ.ระนอง พังงา กระบี่ ภูเก็ต ตรัง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
กรมทรัพยากรน้ำ ร่วมกับ สทนช. ติดตามและประเมินผลการดำเนินงานตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี โครงการก่อสร้างระบบกระจายน้ำสะอาดสนับสนุนโครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงแม่สอง ต.แม่สอง อ.ท่าสองยาง จ.ตาก เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำอุปโภค-บริโภคให้ประชาชนบนพื้นที่สูงถิ่นทุรกันดารพร้อมรองรับรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง ประชาชนได้รับประโยชน์ 140 ครัวเรือน จำนวน 500 คน
กอนช. ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมและภัยแล้งอย่างใกล้ชิด พร้อมเร่งแก้ไขปัญหา
วันที่ 11 กรกฎาคม 2566 ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เป็นประธานการประชุมการประเมินสถานการณ์น้ำโดยในที่ประชุมฯ กรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) ประเมินสถานการณ์ฝน ONE MAP และคาดการณ์ ดังนี้
• ในช่วงระหว่างวันที่ 15-19 ก.ค. 66 จะมีโอกาสมีฝนตกเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือตอนบน ชายขอบภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน
• เดือน ส.ค. จะมีปริมาณฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนมากกว่าค่าปกติ 3% มีแนวโน้มปริมาณฝนเพิ่มมากขึ้นบริเวณภาคเหนือฝั่งตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือฝั่งตะวันออก ในส่วนพื้นที่ตอนกลางยังคงมีโอกาสเกิดฝนน้อย
• เดือน ก.ย. คาดว่าจะมีปริมาณฝนน้อยกว่าค่าปกติ 8% โดยมีปริมาณฝนลดลงในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง รวมถึงภาคกลางที่ยังมีฝนน้อย ประกอบกับการวิเคราะห์พื้นที่เสี่ยงภัยแล้งโดยแผนที่ภาพถ่ายดาวเทียมของ GISTDA พบว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออก เป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงเกิดภัยแล้ง
ทั้งนี้ กำชับให้ สทนช. บูรณาการความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แจ้งเตือนประชาสัมพันธ์ เร่งแก้ไขปัญหาทั้งน้ำท่วมและภัยแล้ง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนทั่วประเทศได้อย่างรวดเร็ว