ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง
ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกปานกลางถึงหนักบริเวณ จ.บุรีรัมย์ (52) จ.พิจิตร (38) จ.ตราด (38) กรุงเทพมหานคร (35) จ.ประจวบคีรีขันธ์ (24) จ.พัทลุง (17)
ปริมาตรแหล่งน้ำทุกขนาด 41,790 ล้าน ลบ.ม. (51%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 37,379 ล้าน ลบ.ม. (52%)
คุณภาพน้ำในแม่น้ำสายหลัก อยู่ในเกณฑ์ปกติทุกสถานี
พื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังน้ำหลากช่วง 1-3 วัน ดังนี้ ไม่พบพื้นที่เสี่ยง
หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา จัดกำลังพลชุดบรรเทาสาธารณภัย จำนวน 6 นาย พร้อมรถตรวจการณ์ จำนวน 1 คัน ดำเนินการสำรวจ และติดตามระดับน้ำในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมซ้ำซาก เพื่อเตรียมความพร้อมในการแจ้งเตือนภัย และเข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันเหตุการณ์ อีกทั้งช่วยลดความเสี่ยง และความเสียหายทรัพย์สินของประชาชน ณ ประตูระบายน้ำดอยน้อย ต.ดอยน้อย อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่
ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมการประเมินสถานการณ์น้ำ เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับมือกับผลกระทบของสภาวะเอลนีโญ ซึ่งมีแนวโน้มจะเกิดขึ้นยาวไปถึงปีหน้า โดยคาดการณ์ว่าสถานการณ์น้ำในปี 66 และ 67
ที่ประชุมได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทำข้อมูลเพิ่มเติมในการบริหารจัดการน้ำเขื่อนต่างๆ รวมถึงแหล่งน้ำสำรองในการให้ความช่วยเหลือประชาชนให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด โดยใช้ข้อมูลในปี 63 เพื่อประเมินปริมาณน้ำต้นทุน ณ วันที่ 1 พ.ย. 67 สำหรับใช้ในการบริหารจัดการน้ำระยะยาว 2 ปี โดยมุ่งกักเก็บน้ำต้นทุนให้ได้มากที่สุด
ปัจจุบันสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำมีปริมาณลดลง ต้องเน้นย้ำเรื่อง การรณรงค์ใช้น้ำอย่างประหยัด สร้างความรู้ความเข้าใจให้เกษตรกรได้เข้าใจสถานการณ์น้ำทั้งในปีนี้และปีหน้า โดยให้ความสำคัญกับน้ำอุปโภคบริโภคเป็นอันดับแรก จนถึงการใช้น้ำในภาคอุตสาหกรรมและรักษาระบบนิเวศ โดยขอให้เกษตรกรติดตามข่าวสารจากภาครัฐอย่างใกล้ชิดเพื่อลดความเสี่ยงของการเพาะปลูกจากฝนทิ้งช่วง ทั้งนี้ กรมชลประทานยังได้มีการส่งเสริมการปลูกข้าวอายุสั้นและเก็บเกี่ยวได้เร็ว รวมถึงส่งเสริมให้ประชาชนพัฒนาแหล่งน้ำของตนเองเพื่อรองรับหากเกิดสถานการณ์ฝนทิ้งช่วงด้วย
สำหรับพื้นที่ประสบภัยแล้ง ตามประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สทนช. ได้มีการติดตามสถานการณ์และประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสนับสนุนให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง โดยหากประชาชนได้รับความเดือดร้อนสามารถแจ้งข้อมูลเข้ามาได้ที่เพจเฟซบุ๊คของ สทนช. หรือแจ้งไปยัง สทนช.ทั้ง 4 ภาค โดยจะมีการติดตามตรวจสอบและประสานงานให้ความช่วยเหลือเพื่อแก้ไขและบรรเทาปัญหาโดยเร็วที่สุด