ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ ส่วนมากบริเวณด้านรับมรสุม โดยมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก
ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกปานกลางถึงหนักบริเวณ จ.ปัตตานี (80) จ.นครนายก (53) จ.อุบลราชธานี (39) จ.กาญจนบุรี (38) จ.แม่ฮ่องสอน (30) จ.นนทบุรี (25)
ปริมาตรแหล่งน้ำทุกขนาด 41,950 ล้าน ลบ.ม. (51%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 37,533 ล้าน ลบ.ม. (53%)
คุณภาพน้ำในแม่น้ำสายหลัก อยู่ในเกณฑ์ปกติทุกสถานี ยกเว้นแม่น้ำแม่บางปะกงค่าออกซิเจนต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน
กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ดำเนินการซ่อมบำรุงรักษาระบบประปาบาดาลของโครงการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลเพื่อสนับสนุนโครงการอันเนื่องมาจากประราชดำริ ประจำปีงบประมาณ 2556 โครงการสายใยรัก บ้านลำพันบอง ต.หนองโพธิ์ อ.หนองหญ้าไทร จ.สุพรรณบุรี และโครงการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อความมั่นคงระดับชุมชน ประจำปีงบประมาณ 2564 ณ บ้านทุ่ง หมู่ที่ 4 ต.ห้วยขมิ้น อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี เพื่อให้สามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติ
พื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังน้ำหลากช่วง 1-3 วัน ดังนี้ ภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน และตาก ภาคตะวันออก จ.นครนายก ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคตะวันตก จ.กาญจนบุรี
กอนช. ติดตามสถานการณ์น้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ พร้อมเน้นย้ำทุกภาคส่วนร่วมกันประหยัดน้ำ
กรมชลประทาน ยืนยันว่าปริมาณน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ปัจจุบัน อยู่ในเกณฑ์เพียงพอสำหรับอุปโภค-บริโภคตลอดฤดูฝนนี้ ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนร่วมใจกันประหยัดน้ำ โดยเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย ให้ติดตามสถานการณ์เอลนีโญอย่างใกล้ชิด ยึดหลัก 12 มาตรการรับมือฤดูฝนปี 2566
สถานการณ์น้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ณ วันที่13 มิ.ย. 66 มีปริมาณน้ำใช้การได้ประมาณ 138 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 14% ของความจุอ่างฯ มีการระบายน้ำ (Outflow) เพื่อสนับสนุนการใช้น้ำอุปโภค-บริโภคในพื้นที่ด้านท้ายประมาณวันละ 1 ล้าน ลบ.ม. ทั้งนี้ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักชลสิทธิ์ ได้มีการติดตามปรากฎการณ์เอลนีโญอย่างใกล้ชิด มีการวางแผนบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูฝน ปี 2566 และปฏิบัติตาม 12 มาตรการรับมือฤดูฝนปี 2566 ตามมติ ครม. อย่างเคร่งครัด พร้อมกันนี้ ยังได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรใช้น้ำฝนเป็นหลักในการทำนาปี ส่วนน้ำที่ระบายจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จะใช้เพื่อการอุปโภค-บริโภค รักษาระบบนิเวศ และเสริมน้ำฝนเพื่อการเกษตรเท่านั้น จากการคาดการณ์ของกรมชลประทาน โดยใช้ข้อมูลฝนจากกรมอุตุนิยมวิทยา กรณีใช้ค่าปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ เฉลี่ย คาดว่าปริมาณน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ณ วันที่ 1 พ.ย. 66 จะมีปริมาณน้ำเต็มเขื่อน 100 % หรือเต็มความจุอ่างฯที่ 960 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งเพียงพอ ต่อความต้องการใช้น้ำในฤดูแล้งปีหน้า