ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง โดยมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคตะวันออก และภาคใต้
ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณ ภาคเหนือ จ.อุทัยธานี (99) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.กาฬสินธุ์ (55) ภาคใต้ จ.นราธิวาส (54) ภาคตะวันออก จ.นครนายก (20) ภาคกลาง จ.สิงห์บุรี (18) และภาคตะวันตก จ.กาญจนบุรี (9)
ปริมาตรแหล่งน้ำทุกขนาด 42,817 ล้าน ลบ.ม. (52%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 38,410 ล้าน ลบ.ม. (54%)
คุณภาพน้ำในแม่น้ำสายหลัก อยู่ในเกณฑ์ปกติทุกสถานี ยกเว้นแม่น้ำบางปะกง ค่าความเค็มสูงเกินมาตรฐาน
พื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังน้ำหลากช่วง 1-3 วัน ดังนี้ ภาคเหนือ จ.แม่ฮ่องสอน และเชียงใหม่ ภาคตะวันออก จ.ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้ จ.ระนอง พังงา กระบี่ ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
กรมทางหลวงชนบท ขุดลอกดินโคลน เศษวัชพืชที่กีดขวางทางน้ำบริเวณห้วยหินแตก พร้อมติดตั้งกล่องลวดตาข่ายบรรจุหิน (Gabion boxes) ป้องกันกระแสน้ำกัดเซาะตลิ่งและบริเวณเชิงสะพานบนถนนทางหลวงชนบทสาย นค.3026 แยก ทล.211 บ้านเชียงดี (ตอนหนองคาย) อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย เพื่อเตรียมรองรับสถานการณ์อุทกภัยในช่วงฤดูฝน
สทนช. โดยสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติภาค 2 ร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานตาม 12 มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2566 และการเตรียมการรับมือสถานการณ์เอลนีโญในพื้นที่ต้นน้ำของลุ่มน้ำปาสัก อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ โดยได้รับทราบปัญหาการใช้น้ำในพื้นที่ ดังนี้
• ปัญหาน้ำลันตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในช่วงน้ำหลากเป็นประจำทุกปี
• ดินตะกอนไหลทับถมกลางแม่น้ำป่าสักเกิดการตื้นเชิน
• ช่วงฤดูแล้งมีปริมาณน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้น้ำด้านการอุปโภค-บริโภค ของประชาชนในพื้นที่
ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างโครงการป้องกันตลิ่งและเสริมกันกั้นน้ำแม่น้ำป่าสัก ม.2 ต.ตาลเดี่ยว อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์
ทั้งนี้ ผู้แทนสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติภาค 2 ได้รวบรวมประเด็นปัญหานำเรียนคณะกรรมการลุ่มน้ำป่าสักทราบถึงปัญหาดังกล่าว และเตรียมการจัดประชุมคณะกรรมการลุ่มน้ำปาสัก ครั้งที่ 2/2566 สัญจร จ.เพชรบูรณ์ เพื่อให้คณะกรรมการลุ่มน้ำป่าสักได้ทราบถึงลักษณะภูมิประเทศของพื้นที่ต้นน้ำ การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ รวมถึงปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ในการดำเนินงาน เพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการน้ำ ตั้งแต่ต้นน้ำ – กลางน้ำ – ปลายน้ำ ของคณะกรรมการลุ่มน้ำป่าสักได้อย่างมีประสิทธิภาพ