สถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 11 พ.ค. 66 เวลา 7.00 น.

ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง

ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกหนักมากบริเวณ จ.สิงห์บุรี (127 มม.) จ.พะเยา (118 มม.) และ จ.ยะลา (108 มม.)

น้ำใช้การแหล่งน้ำทุกขนาด 16,840 ล้าน ลบ.ม. (35%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 20,914 ล้าน ลบ.ม. (36%)

คุณภาพน้ำในแม่น้ำสายหลัก อยู่ในเกณฑ์ปกติทุกสถานี ยกเว้นแม่น้ำบางปะกง ค่าความเค็มสูงเกินมาตรฐาน

หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา นำกำลังพลจิตอาสาพระราชทาน และรถขุดตักแขนยาว จำนวน 1 คัน ร่วมกับ ส่วนราชการในพื้นที่อำเภอวังยาง และประชาชนจิตอาสาในพื้นที่ ร่วมกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาขุดลอกคูคลอง กำจัดวัชพืช เก็บผักตบชวา รวมทั้งสิ้นจำนวน 400 คน ในพื้นที่ลำห้วยยาง บ้านยอดชาด ม.2 ต.ยอดชาด อ.วังยาง จ.นครพนม

กอนช. ประเมินสถานการณ์น้ำเตรียมเข้าสู่ฤดูฝน 2566 วางแผนระยะยาวกักเก็บน้ำให้มากที่สุดรับมือเอลนีโญ

ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เป็นประธานในการประชุมคณะทำงานประเมินสถานการณ์น้ำครั้งที่ 2/2566 เมื่อวันที่ 10 พ.ค. 2566 เพื่อประเมินสถานการณ์น้ำ ก่อนประเทศไทยจะเข้าสู่ฤดูฝนในช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือน พ.ค. 2566 ที่ประชุมได้เน้นย้ำในเรื่องของการกักเก็บน้ำเพื่อรองรับสถานการณ์ที่ประเทศไทยจะเข้าสู่สภาวะเอลนีโญ ดังนี้
• กรมชลประทาน และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ใช้ฝนคาดการณ์แบบค่าฝนน้อยมาประเมินเพื่อใช้เป็นเกณฑ์ในการบริหารจัดการอ่างเก็บน้ำทั้งขนาดใหญ่และขนาดกลาง สำหรับสนับสนุนการเพาะปลูกพืชฤดูฝนปี 2566
• รณรงค์ในเรื่องของการประหยัดน้ำ และส่งเสริมการปลูกพืชใช้น้ำน้อยให้กับเกษตรกร
• ขอให้ประชาชนประสานงานกับภาครัฐอย่างใกล้ชิดในการวางแผนการเพาะปลูก เพื่อลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
• กรมฝนหลวงและการบินเกษตรมีการปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อเติมเต็มปริมาณน้ำในพื้นที่การเกษตรของประชาชน

กอนช. ได้มีการแจ้งเตือนประชาชนให้เฝ้าระวังฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันได้ แต่ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนกักเก็บน้ำไว้ให้ได้มากที่สุด เพื่อให้มีน้ำสำหรับรองรับสถานการณ์ในช่วงฝนทิ้งช่วง