การรถไฟแห่งประเทศไทย จัดงานรณรงค์ลดอุบัติเหตุ “สงกรานต์ปลอดภัย หยุดพฤติกรรมเสี่ยง เพื่อทุกชีวิตบนท้องถนน”

วันที่ 11 เมษายน 2566 เวลา 14.00 น. ณ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ การรถไฟแห่งประเทศไทย ร่วมกับ มูลนิธิเมาไม่ขับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) และภาคีเครือข่ายรณรงค์ลดอุบัติเหตุเมาไม่ขับ ภาครัฐ ภาคเอกชน จัดกิจกรรมรณรงค์ “สงกรานต์ปลอดภัย หยุดพฤติกรรมเสี่ยง เพื่อทุกชีวิตบนท้องถนน” โดยมีนายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบกและประธานกรรมการรถไฟฯ นายเอก สิทธิเวคิน รองผู้ว่าการรถไฟฯ นายแพทย์แท้จริง ศิริพาณิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ พลตำรวจตรี ชัยรพ จุณณวัตต์ ผู้บังคับการตำรวจรถไฟ และภาคีเครือข่ายรณรงค์ความปลอดภัยเข้าร่วมงาน

นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมมีความห่วงใยต่ออุบัติเหตุบนท้องถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2566 เนื่องจากมีวันหยุดต่อเนื่อง 5 วัน และมีพี่น้องประชาชนเดินทางกลับบ้านฉลองสงกรานต์จำนวนมาก ทางกระทรวงคมนาคมจึงดูแลเรื่องความปลอดภัย ทั้งจากไวรัสโควิด 19 และอุบัติเหตุอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะผู้โดยสารที่เดินทางมายังสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ขอความร่วมมือทุกคนสวมหน้ากากอนามัย รักษาระยะห่าง นอกจากนั้นทางการรถไฟฯ ได้เตรียมหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์สำหรับบริการประชาชน ส่วนในเรื่องการป้องกันอุบัติเหตุ กระทรวงคมนาคมมีนโยบายที่สำคัญคือต้องอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางให้กับประชาชน โดยจะเข้มงวดกวดขันผู้ขับขี่ต้องปลอดจากแอลกอฮอล์ ตรวจเข้มในเรื่องการเมาสุรา การขับรถเร็ว การโทรแล้วขับ ฯลฯ หากตรวจพบว่าพนักงานขับรถมีปริมาณแอลกอฮอล์ จะมีการลงโทษสถานหนักถึงขั้นไล่ออก “ผู้ขับขี่รถสาธารณะเป็นบุคคลที่ต้องรับผิดชอบชีวิตผู้อื่นเป็นจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องมีมาตรฐานในการขับขี่รถที่สูงกว่าผู้ขับขี่รถทั่วไป การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แม้แต่เพียงเล็กน้อยถือว่าเป็นเจตนาที่จะละเมิดกฎแห่งความปลอดภัย ถือว่าความผิดสำเร็จแล้วฐานดื่มสุราในขณะปฏิบัติหน้าที่ และผิดกฎหมายขนส่งโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับ 2,000 – 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ เปิดเผยว่า “ ขอเตือนไปยังผู้ที่เมาแล้วขับ เนื่องจากกฎหมายใหม่มีผลบังคับใช้แล้ว โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ระหว่างศาลรอลงอาญาและคุมประพฤติ ในช่วงเวลา 2 ปี ถ้าเมาแล้วขับซ้ำ 2 จะถูกนำตัวส่งฟ้องศาลอาญาหรือศาลจังหวัดโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับ 50,000-100,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งกฎหมายระบุไว้ว่าในกรณีเมาแล้วขับซ้ำ 2 ให้ศาลลงโทษจำคุกและปรับด้วยเสมอ เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ กล่าว

นายเอก สิทธิเวคิน รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การรถไฟฯ ได้ตระหนักถึงปัญหาอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นอันมีสาเหตุมาจากการเมาแล้วขับ จึงได้ให้การสนับสนุนมูลนิธิเมาไม่ขับ จัดงานโครงการ “สงกรานต์ปลอดภัย หยุดพฤติกรรมเสี่ยง เพื่อทุกชีวิตบนท้องถนน” และพิธีปล่อยแถวตำรวจรถไฟ อย่างต่อเนื่องนับเป็นปีที่ 26 แล้ว ด้วยความมุ่งหวังที่อยากเห็นประชาชน ทั้งที่เป็นผู้มาใช้บริการของการรถไฟฯ และประชาชนทั่วไป ได้ตระหนักถึงอันตรายอันเกิดจากการเมาสุราแล้วขับรถ ซึ่งการรถไฟฯ ได้ให้ความสำคัญกับปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจังมาโดยตลอด โดยจัดให้มีการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์พนักงานด้านปฏิบัติการอย่างสม่ำเสมอ รวมถึง มาตรการงดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในสถานี และบนขบวนรถทุกขบวน พร้อมกำชับกวดขันผู้ปฏิบัติงานทุกฝ่ายให้ความร่วมมือในการปฏิบัติงาน โดยระมัดระวังป้องกันไม่ให้เกิดอันตราย

ในส่วนมาตรการดูแลความปลอดภัยรองรับการเดินทางของประชาชน ได้จัดตั้งศูนย์ปลอดภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2566 ทั้งส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค ตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน 2566 เป็นต้นไป โดยได้เพิ่มกำลังพนักงาน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟ ทั้งบนขบวนรถ และสถานี พร้อมทั้งได้ประสานกับหน่วยงานท้องถิ่น อบต. อปพร. เพิ่มเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครประจำตามจุดตัดถนนเสมอระดับทางรถไฟ โดยเฉพาะทางผ่านที่เห็นว่ามีความเสี่ยงหรือมีสถิติอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ตรวจสภาพทางให้มีความปกติมั่นคงปลอดภัยต่อการเดินรถ เพื่ออำนวยความสะดวก ปลอดภัยในการเดินทางให้กับพี่น้องประชาชน เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ สารเสพติดของพนักงานขับรถ เจ้าหน้าที่ประจำขบวนรถและประจำสถานีก่อนปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงห้ามจำหน่าย/ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนขบวนรถ และบริเวณสถานีรถไฟ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการเดินทางของผู้โดยสาร ตามนโยบายการกระทรวงคมนาคม และนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ขณะเดียวกัน ได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด–19 โดยกำหนดจุดคัดกรองวัดไข้ผู้โดยสารก่อนเข้าในพื้นที่ การตั้งจุดให้บริการแอลกอฮอล์ล้างมือ และให้พนักงานสวมใส่สวมหน้ากากอนามัยตลอดการปฏิบัติงาน สร้างความมั่นใจและความปลอดภัยต่อผู้โดยสารตลอดการเดินทาง

นอกจากนี้ การรถไฟฯ จัดโครงการ “เดินทางกลับบ้านปลอดภัย” ในระหว่างวันที่ 10 – 12 เมษายน 2566 โดยจะมอบพัดที่ระลึกสุดพิเศษจากการรถไฟฯ จำนวน 10,000 ชิ้น และองค์การเภสัชกรรมมอบหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ จำนวน 5,000 ชุด ให้กับผู้ใช้บริการรถไฟที่สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ดอนเมือง รังสิต และบางบำหรุ เพื่อแสดงความขอบคุณและส่งต่อความห่วงใย

ทั้งนี้ ผู้โดยสารสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม รวมทั้งกำหนดเวลาต่าง ๆ ได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย