+ ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ส่วนภาคใต้ตอนล่างมีฝนฟ้าคะนองและ มีฝนตกหนักบางแห่ง
+ ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกหนัก ถึงหนักมากบริเวณ จ.นครศรีธรรมราช (95 มม.) จ.สงขลา (94 มม.) และ จ.พัทลุง (79 มม.)
+ น้ำใช้การแหล่งน้ำทุกขนาด 26,480 ล้าน ลบ.ม. (46%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 21,830 ล้าน ลบ.ม. (46%)
+ คุณภาพน้ำในแม่น้ำสายหลัก อยู่ในเกณฑ์ปกติทุกสถานี
+กองทัพบก ได้จัดกำลังพลจิตอาสาของหน่วย ร่วมกับผู้นำชุมชน ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนในการแจกจ่ายน้ำ ห้วงภัยแล้ง จำนวน 18,000 ลิตร เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากการขาดแคลนน้ำอุปโภคและบริโภค ในพื้นที่ หมู่ 2 ต.ท่าแค อ.เมือง จ.ลพบุรี และกองทัพบก ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนตำบลคลองปาง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนจิตอาสาภายในชุมชน ร่วมมือกันสร้างฝายชะลอน้ำแบบกึ่งถาวร “ฝายแม้ว” เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้อุปโภค-บริโภค ลดปัญหาการขาดแคลนน้ำในช่วงหน้าแล้ง ในพื้นที่ คลองไพร
ต.คลองปาง อ.รัษฎา จ.ตรัง
+นายกรัฐมนตรีติดตามสถานการณ์ภัยแล้งใกล้ชิด ย้ำผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งลดผลกระทบพื้นที่ประกาศภัยแล้ง บรรเทาความเดือดร้อนประชาชน พร้อมเตรียมการรองรับพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำเพิ่ม
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามสถานการณ์ภัยแล้งใกล้ชิดหลังมีพื้นที่ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินแล้ว 1 อำเภอ คือ อ.เกาะสีชัง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นการประกาศเขตภัยแล้งจังหวัดแรกในรอบปี 2566
นายกรัฐมนตรี จึงสั่งการและเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ที่ประสบภัยแล้ง และผู้ว่าราชการจังหวัดอื่นๆ เฝ้าติดตามสถานการณ์ภัยแล้งอย่างใกล้ชิดในช่วงเวลาที่เหลือ โดยเฉพาะในช่วงเดือนเมษายนของทุกปีที่หลายพื้นที่อาจเกิดสถานการณ์ขาดแคลนน้ำได้ โดยขอให้ทุกพื้นที่เตรียมการความพร้อมในทุกด้านทั้งเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ รองรับสถานการณ์ภัยแล้งและพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำเพิ่ม ทั้งน้ำอุปโภค-บริโภค และพื้นที่เกษตร พร้อมขอให้ทุกจังหวัดเร่งประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้กับประชาชนในการใช้น้ำอย่างรู้คุณค่าเกิดประโยชน์สูงสุด และประหยัดน้ำต่อเนื่องเพื่อให้มีน้ำไว้ใช้อย่างเพียงพอในช่วงฤดูแล้งนี้