กรมฝนหลวงร่วมงานวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงเกษตรฯ พร้อมปรับแผนปฏิบัติการในพื้นที่ภาคเหนือเพื่อรองรับสถานการณ์

วันที่ 1 เมษายน 2566 เวลา 07.30 น. นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร นำคณะผู้บริหารกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เข้าร่วมงานวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ครบรอบปีที่ 131

โดยมี ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้เกียรติเป็นประธาน โดยในช่วงเช้าได้จัดพิธีสงฆ์ และสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงฯ จากนั้นประธานฯ ประกอบพิธีเปิดงานวันสถาปนากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เนื่องในโอกาสครบรอบ 131 ปี MOAC Digital Transformation ภายใต้แนวคิด “กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มุ่งสู่บริการภาครัฐดิจิทัลเพื่อเกษตรกร” ณ ห้องประชุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ห้อง 115)

นอกจากนี้มีการจัดนิทรรศการแสดงผลงานเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านการเกษตรของหน่วยงานในสังกัดของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำหรับในส่วนของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้ร่วมจัดนิทรรศการในครั้งนี้เช่นกัน ภายใต้แนวคิด “เทคโนโลยีการต่อยอดศาสตร์ฝนหลวงพระราชทาน” โดยจัดแสดงเรื่องราวการวิจัย พัฒนา ต่อยอดศาสตร์ตำราฝนหลวงพระราชทาน คือ เทคโนโลยีการพ่นสารจากพื้นสู่ก้อนเมฆ ซึ่งเป็นโครงการเทคนิคทางเลือกในการปฏิบัติการฝนหลวงในเขตพื้นที่เงาฝนมีข้อจำกัดทางด้านการบิน ซึ่งขณะนี้ติดตั้งอุปกรณ์บริเวณพื้นทีลุ่มรับน้ำเขื่อนแม่กวงอุดมธารา จังหวัดเชียงใหม่ เพราะเป็นแหล่งกักเก็บน้ำเพื่อใช้การเกษตร อุปโภค บริโภค ของจังหวัดเชียงใหม่ และลำพูน สำหรับการวิจัย พัฒนาเครื่องบินเป้าอากาศไร้นักบิน เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการฝนหลวงเมฆอุ่น เป็นเทคโนโลยีที่สามารถเพิ่มโอกาสและพื้นที่ในการปฏิบัติการฝนหลวงภายใต้ข้อจำกัดของอากาศยานและสภาพอากาศปิด และยังช่วยลดความเสี่ยงของบุคลากรในการทำงานบนอากาศยาน และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงานได้ในระดับหนึ่ง

สำหรับผลปฏิบัติการฝนหลวงเมื่อวันที่ มีนาคม 2566 สามารถช่วยเหลือพื้นที่ประสบปัญหาหมอกควันและไฟป่าบริเวณจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ ขณะเดียวกันก็ได้ปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรบางส่วนของจังหวัดสกลนคร มุกดาหาร และฉะเชิงเทรา และนายสุพิศ ได้กล่าวเพิ่มเติมถึงสถานการณ์หมอกควัน ไฟป่า และฝุ่นละอองในพื้นที่ภาคเหนือ กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้มีการปรับแผนการปฏิบัติงาน โดยได้เพิ่มเครื่องบินปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 2 ลำ รวมเป็น 4 ลำ และการโปรยน้ำจากอากาศยานฝนหลวง เพื่อเสริมประสิทธิภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้น สำหรับในวันนี้ หน่วยฯ เชียงใหม่ ได้วางแผนบินและโปรยน้ำจากอากาศยานฝนหลวงช่วยบรรเทาปัญหาหมอกควันและไฟป่าบริเวณจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน และลำปาง หน่วยฯ แพร่ ช่วยเหลือพื้นที่ประสบปัญหาหมอกควันและไฟป่า และพื้นที่การเกษตรบริเวณจังหวัดเลย แพร่ อุตรดิตถ์ และพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และหน่วยฯ อุดรธานี ช่วยเหลือบริเวณพื้นที่การเกษตร จังหวัดขอนแก่น กาฬสินธุ์ เลย หนองบัวลำภู และชัยภูมิตอนบน

อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้ขอให้พี่น้องประชาชนทางพื้นที่ที่ประสบปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กหลีกเลี่ยงหรือลดการทำกิจกรรมกลางแจ้ง เฝ้าระวังสุขภาพ และหากมีความจำเป็นควรใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองเพื่อลดการส่งผลกระทบต่อสุขภาพจากหมอกควันและฝุ่นละอองในอากาศ ทั้งนี้สามารถแจ้งสถานการณ์ต่างๆ และความต้องการฝนหลวงเข้ามาได้เป็นประจำผ่านทางอาสาสมัครฝนหลวงในพื้นที่ หน่วยงานอำเภอ จังหวัด ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงทั่วประเทศ หรือช่องทางโซเชียลมีเดีย Facebook Instagram Twitter TikTok : @drraa_pr หรือหมายเลขโทรศัพท์ 02-1095100 ต่อ 410