มาฆบูชาอาเซียน สานสัมพันธ์ไทย-ลาวในมิติพระพุทธศาสนา

กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมมือกับภาคีเครือข่ายด้านศาสนาและวัฒนธรรม รวมถึง ภาคประชาชนของประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จัดกิจกรรมมาฆบูชาอาเซียน เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในมิติศาสนา ด้วยกิจกรรมการสักการะและเวียนเทียนรอบพระธาตุคู่ สองฝั่งโขง ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทยและชาวลาว และกิจกรรมตักบาตรข้าวเหนียว เพื่อส่งเสริมให้มีการนำหลักธรรมทางศาสนามาปรับใช้ในการดำเนินชีวิต รวมทั้งเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศ

นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวว่า กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม ให้ความสำคัญในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในมิติศาสนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคอาเซียน โดยดำเนินการภายใต้เสาหลักด้านประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน (ASEAN Socio-Cultural Community : ASCC) ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนในภูมิภาค อาเซียนอยู่ร่วมกันภายใต้สังคมที่เอื้ออาทรและมีความมั่นคง ดังนั้น การดำเนินงานที่ผ่านมา กรมการศาสนาในฐานะหน่วยงานภาครัฐที่มีภารกิจการดำเนินงานด้านศาสนา จึงได้นำมิติทางศาสนามาเป็นแนวทางหนึ่งในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยร่วมกับภาคคณะสงฆ์และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ส่งเสริมให้วัดไทยและวัดทางพระพุทธศาสนาในต่างประเทศจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี

เพื่อให้พุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้รับการพัฒนาจิตใจตามหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนา ในเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ สำหรับในภูมิภาคอาเซียน กรมการศาสนาได้อุดหนุนงบประมาณให้สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดที่มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีอาเซียน เพื่อส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติในภูมิภาคอาเซียนได้ปฏิบัติตนตามหลักธรรมศาสนาร่วมกัน ก่อให้เกิดความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ รวมถึงภาคคณะสงฆ์ และหน่วยงานองค์กรหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ที่ร่วมดำเนินงาน

นายชัยพล สุขเอี่ยม กล่าวต่อว่า กรมการศาสนาได้ขยายผลและต่อยอดแนวความคิดในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในมิติศาสนา ด้วยการริเริ่มจัดกิจกรรมมาฆบูชาอาเซียนร่วมกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันอย่างแนบแน่นกับประเทศไทย ทั้งด้านภูมิศาสตร์ สังคม วัฒนธรรม อีกทั้งประชากรส่วนใหญ่ในประเทศนับถือพระพุทธศาสนาเช่นเดียวกัน กรมการศาสนาจึงร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดหนองคาย จัดกิจกรรม “สัปดาห์มาฆบูชาอาเซียน เพื่อส่งเสริมสัมพันธไมตรีกับประเทศอาเซียนในมิติพระพุทธศาสนา” ระหว่างวันที่ 9 – 10 มีนาคม 2566 ในพื้นที่จังหวัดหนองคาย และนครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

โดยดำเนินกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์สองฝั่งโขง ประกอบด้วย การสักการะพระธาตุหล้าหนอง หรือพระธาตุหนองคายเป็นพระธาตุที่จมอยู่กลางลำน้ำโขง ตั้งอยู่บริเวณวัดสิริมหากัจจายน์ (วัดธาตุ) ตำบลในเมือง อำเภอเมืองหนองคาย ภายในพระธาตุประดิษฐานพระบรมธาตุฝ่าพระบาทเก้าพระองค์ โดยสันนิษฐานว่าเมื่อร้อยปีก่อนองค์พระธาตุได้ล้มลงเนื่องจากการกัดเซาะของกระแสน้ำ แต่ทางจังหวัดได้สร้างพระธาตุองค์จำลองขึ้นมาใหม่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง และการสักการะพระธาตุโพนจิกเวียงงัว ตั้งอยู่ภายในวัดโคกป่าฝาง ตำบลปะโค อำเภอเมืองหนองคายเป็นพระธาตุเก่าแก่สมัยล้านช้างที่ภายในประดิษฐานพระบรมธาตุเขี้ยวฝางสามองค์ และภายในวัดยังมีฐานอุโบสถเก่าแก่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานอีกด้วย และสิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ การสักการะพระธาตุคู่พระธาตุเจดีย์คู่เก่าแก่คู่เมืองหนองคาย ตั้งอยู่ภายในวัดเทพพลประดิษฐาราม ตำบลเวียงคุก อำเภอเมืองหนองคาย โดยภายในวัดยังมีศาลาวิหารไม้ที่สร้างขึ้นจากแรงศรัทธาของคนในชุมชน เป็นวิหารที่ผสมผสานสถาปัตยกรรมทั้งสองฝั่งโขง และเนื่องในเทศกาลมาฆบูชาทางวัดจึงได้จัดกิจกรรมเวียนเทียนรอบพระธาตุคู่ โดยอธิบดีกรมการศาสนาและคณะได้เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวร่วมกับพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทยและชาวลาวในพื้นที่ด้วยรวมทั้ง ยังได้เยี่ยมชุมชนคุณธรรมต้นแบบวัดเทพพลประดิษฐาราม และชุมชนคุณธรรมบ้านปะโค เพื่อศึกษาวิถีการดำเนินชีวิตของผู้คนในท้องถิ่น ผ่านการแสดงทางศิลปวัฒนธรรมและการแสดงสินค้าชุมชนต่างๆซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นสายใยความสัมพันธ์ในมิติทางศาสนาและวัฒนธรรมระหว่างผู้คนสองฝั่งโขงที่มีให้แก่กันมาอย่างแนบแน่นยาวนาน

นอกจากกิจกรรมเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางศาสนาภายในประเทศแล้ว กรมการศาสนายังได้ขยายพื้นที่การดำเนินงานไปยังต่างประเทศ ด้วยการร่วมกิจกรรมตักบาตรข้าวเหนียวเนื่องในเทศกาลมาฆบูชาพร้อมกับนางสาวมรกต ศรีสวัสดิ์ เอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์ และพุทธศาสนิกชนชาวลาว ณ วัดพระธาตุหลวง นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และได้สักการะ พระอาจารย์ใหญ่มหาบุญมา สมมาพล สมเด็จพระสังฆราชและประธานศูนย์กลางองค์การพุทธศาสนาสัมพันธ์แห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และสักการะ พระอาจารย์ใหญ่มหาเวด มะเสไน รองประธานศูนย์กลางองค์การพุทธศาสนาสัมพันธ์แห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อกราบขอบพระคุณที่ทางภาคคณะสงฆ์ฝ่ายลาวได้ให้ความร่วมมือในการจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีที่ผ่านมา ส่งผลให้กิจกรรมดังกล่าวสำเร็จลุล่วงด้วยดี รวมทั้งยังได้ร่วมเจรจากับ ฝ่ายการเมืองสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว คือ นายถนอม ทำทอง ประธานศูนย์กลางแนวลาว สร้างชาติ นครหลวงเวียงจันทน์ และ นายสมบูรณ์ คำพูนแสง หัวหน้ากรมศาสนา กระทรวงภายใน เพื่อร่วมกันหารือแนวทางดำเนินการเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านศาสนาในอนาคต ผ่านการจัดกิจกรรมทางพุทธศาสนาร่วมกันโดยกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ คือ กิจกรรมตักบาตรสองแผ่นดิน โดยทางคณะสงฆ์ผ่ายลาวดำเนินการร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดหนองคาย และภาคีเครือข่ายด้านวัฒนธรรมในพื้นที่

กิจกรรมการดำเนินงานทั้งหมดเกิดจากความร่วมมือกันของทุกภาคส่วน ทั้งภาคคณะสงฆ์ หน่วยงานองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ในการนำมิติทางศาสนาและวัฒนธรรมมาเป็นสื่อกลางเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ส่งผลให้เกิดความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างกันทั้งในระดับบุคคล ชุมชน องค์กร และประเทศชาติ ซึ่งสอดคล้องกับเสาหลักด้านประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน ในการส่งเสริมให้ประชากรในภูมิภาคสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุขภายใต้ความมั่นคงทางสังคมอย่างแท้จริง