วันที่ 10 มีนาคม 2566 นายอภิชัย เอกวนากุล รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวหลังจากได้รับรายงานว่า สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 โดยส่วนส่งเสริมและประสานงานเครือข่ายทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ส่วนบริหารทั่วไป ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลนที่ 10 (ตะกั่วป่า พังงา) ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลนที่ 11 (ลำแก่น พังงา) และศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน ร่วมกันติดตามสถานการณ์หลุมฟักไข่เต่ามะเฟือง รังที่ 7 หลังตรวจพบการยุบตัวของปากหลุมฟักไข่ ตั้งแต่เวลา 13:24 น. ของวันที่ 9 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา
ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด จนถึงเวลา 21:44 น. ลูกเต่ามะเฟืองได้ขึ้นสู่ปากหลุม จำนวน 1 ตัว จากนั้นจนถึงเวลา 23:30 น. ลูกเต่ามะเฟืองได้ทยอยขึ้นปากหลุมอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่เก็บลูกเต่าไว้ในภาชนะที่ปลอดภัย และเมื่อไม่มีลูกเต่าขึ้นมา จึงเปิดปากหลุม และขุดช่วยเหลือลูกเต่ามะเฟืองที่ฟักออกจากไข่ที่เหลือขึ้นมาจากหลุมนำไปปล่อยลงสู่ทะเล จำนวน 78 ตัว ลูกเต่ามะเฟืองอ่อนแอรอการพักฟื้นในตู้ ICU Box จำนวน 3 ตัว ลูกเต่ามะเฟืองตายแรกคลอด จำนวน 13 ตัว และไข่เต่ามะเฟืองไม่พัฒนา จำนวน 23 ฟอง คิดเป็นอัตราการฟัก 80% อัตราการรอดตาย 86% นับเป็นรังไข่เต่ามะเฟืองรังที่ 7 ซึ่งเป็นรังที่แม่เต่ามะเฟืองขึ้นมาวางไข่ เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2566 จำนวนไข่ 117 ฟอง รวมระยะเวลาฟัก 52 วัน
นอกจากนี้ ยังมีลูกเต่ามะเฟือง รังที่ 8 รอฟักอยู่ ซึ่งที่หาดบางขวัญ ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา พบการขึ้นมาวางไข่ของเต่ามะเฟือง ทั้งหมด 8 รัง ตนได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามดูแลหลุมไข่เต่ามะเฟืองอย่างใกล้ชิด ตลอดจนประชาสัมพันธ์ รณรงค์ให้ความรู้ความเข้าใจแก่นักท่องเที่ยว และประชาชนที่มาเยี่ยมชม ส่งเสริมการมีส่วนร่วมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานภาคเอกชนในพื้นที่ อาสาสมัครพิทักษ์ทะเล และชุมชนชายฝั่ง ให้ช่วยกันดูแลอนุรักษ์ ร่วมรักษาสิ่งแวดล้อมให้ทะเลและชายฝั่งเป็นบ้านที่น่าอยู่ และมีความปลอดภัยต่อสัตว์ทะเลหายากเหล่านี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าในฤดูกาลต่อไป จะมีแม่เต่ามะเฟืองกลับขึ้นมาวางไข่ ขยายพันธ์ุ เพิ่มปริมาณอีกเรื่อยๆ อันจะนำไปสู่ระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่งที่สมบูรณ์ “นายอภิชัย กล่าว”